รอง ผบ.ตร.แถลงสรุปผลงานปราบแว้น

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง แถลงผลงานการปราบปรามอย่างจริงจังต่อเนื่องที่ผ่านมา ดำเนินคดีผู้ต้องหาในความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทางสาธารณะและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องกว่า 1,000,000 ราย ประกอบด้วย
จับกุมผู้ต้องหาในข้อหาแข่งรถในทางสาธารณะและขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยกว่า 3,000 ราย สนับสนุนให้มีการแข่งรถในทาง หรือ กองเชียร์จำนวนกว่า 800 ราย ดำเนินคดีกับพ่อแม่และผู้ปกครองตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก ทำทัณฑ์บนผู้ปกครองกว่า 40,000 ราย จับกุมร้านแต่งรถซิ่งกว่า 1,000 ร้าน ความผิดตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบกอีกกว่า 1,201,288 ราย และตรวจยึดรถจักรยานยนต์ของกลาง 320,973 คัน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ยืนยันว่า สถิติการรับแจ้งเหตุทั่วประเทศมีอัตราการรับแจ้งเหตุที่ลดลงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังนำบุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงมาทำประวัติบันทึกลงในระบบ CRIME จำนวน 157,548 ราย ในส่วนของการปฏิบัติการเชิงรุก ได้ร่วมมือกับยูทูบเบอร์ที่มีชื่อเสียงจัดทำคลิปวีดีโอให้ผู้ที่ติดตามที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเลิกพฤติกรรมแข่งรถในทางสาธารณะ  จัดโครงการ “เปิดโรงเรียน เปิดโรงรถ” ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ทางกฎหมายกับนักเรียน นักศึกษา พร้อมสร้างเครือข่ายสายข่าวแจ้งเบาะแสในทุกพื้นที่เสี่ยง จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยตรวจสอบเฝ้าติดตามทางโซเชียลมีเดียถึงการร้องเรียนเรื่องการแข่งรถในทาง พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีกล้องซีซีทีวีมาใช้ในการสืบสวนติดตามมาดำเนินคดีทั้งสิ้น 241 คดี ผู้ต้องหา 283 ราย ยึดรถของกลางตามคำพิพากษาศาล 45 คัน

เจ้าตัวบอกว่า ยังร่วมผลักดันแก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) ในเรื่องความผิดเกี่ยวกับการแข่งรถในทาง ในส่วนของการรวมกลุ่มมั่วสุมในทางหรือสาธารณสถานใกล้ทางด้วยรถตั้งแต่ 2 คันขึ้นไป มีพฤติการณ์ที่จะแข่งรถให้ถือเป็นความผิดฐาน “พยายามแข่งรถในทาง” เป็นการป้องกันปัญหาตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุได้ จัดหาเงินกองทุนจำนวน 4 แสนบาท ตั้งเงินรางวัลให้กับผู้ที่แจ้งเบาะแสการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องจนนำไปสู่การจับกุมรายละ 3,000 บาท  อีกทั้งเสนอโครงการวิจัย “ศึกษาและพัฒนาระบบการจัดการแก้ไขปัญหาการแข่งรถในทางอย่างยั่งยืน” ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน กรมการขนส่งทางบก   23 ล้านบาททำการวิจัยในการแก้ไขปัญหาการแข่งรถในทางอย่างยั่งยืน

 

RELATED ARTICLES