พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ นำกำลังบูรณาการกำลังร่วมหน่วยงานในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐกว่า 100 นาย เปิดปฏิบัติการ “จันทบูร” นำหมายค้นศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 9 จุด ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เพื่อเชิญตัวผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตงบสนับสนุนมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี แจ้งข้อกล่าวหา ตามความผิดมาตรา 157 ละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือทุจริต และมาตรา 151 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ
ทั้งนี้จากปฏิบัติการดังกล่าวเข้าตรวจค้นทั้ง 9 จุด เจ้าหน้าที่พบตัวผู้กระทำผิดพร้อมกับเชิญตัวมาทำการแจ้งข้อกล่าวหาได้ทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย ประกอบด้วย นายธนภณ กิจกาญจน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี นายภูวนาถ บำรุงพันธุ์ อดีตผู้อำนวยการกองแผน พระครูสุทธิตารกาภิรักษ์ หรือ พระครูปลัดณัฐดนัย เจ้าอาวาสวัดสุทธิวารี เจ้าคณะอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี กรรมการมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรี นายเกศสยาม ร่วมดี เจ้าของห้างหุ่นส่วนจำกัดสยามช่างบูรพา พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินมีค่าเอกสารต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก
เป้าหมายสำคัญที่เข้าตรวจค้นครั้งนี้อยู่ที่บ้านเลขที่ 45 และบ้านเลขที่ 8/2 ถนนเทศบาลสาย 3 ตำบลท่าใหม่ อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ของนายธนภณ กิจกาญจน์ มีรั้วรอบขอบชิด ทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึงจึงแสดงหมายค้นเข้าตรวจสอบ ก่อนพบนายธนภณกำลังนอนพักผ่อนอยู่ภายในบ้านพักจึงเชิญตัวมาแจ้งข้อกล่าวหา อีกจุดเป็นกุฏิสงฆ์ของพระครูปลัดณัฐดนัย ตั้งอยู่ภายในวัดสุทธิวารี พื้นที่หมู่ 10 ถนนพระยาตรัง ตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองจันทบุรี นิมนต์มารับทราบข้อกล่าวหา
สำหรับปฏิบัติการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากเมื่อต้นปี 2564 กองบัญชาการสอบสวนกลาง รับเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการทุจริตเงินงบสนับสนุนมูลนิธิพุทธมณฑลจังหวัดจันทบุรีที่ได้รับจากทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมูลนิธิฯเมื่อปี 2552 จนถึงปัจจุบัน เมื่่อลงพื้นที่สืบหาเบาะแสพร้อมสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆ จนพบความผิดปกติเงินงบประมาณสนับสนุนประจำปี 2554-2555 ในส่วนของการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานมูลนิธิฯ นื่องจากตรวจสอบเอกสารรายงานงบประมาณจัดจ้างและเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องต่างๆ พบตัวเลขเงินที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารไม่ตรงกับจำนวนเงินงบประมาณที่เบิกจ่าย หลังจากแกะรอยสืบหาเบาะแสและพยานหลักฐานเพิ่มเติมพบความเชื่อมโยงของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกระทำผิด ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการระดับสูง รวมถึงพระชั้นผู้ใหญ่ที่มีตำแหน่งอยู่ในมูลนิธินำไปสู่ปฏิบัติการตรวจค้นที่เกิดขึ้น
