“ผมเน้นการสืบจับคดีที่สร้างความเดือดร้อนเป็นทุกข์ให้กับประชาชน ตลอดจนเป็นการพัฒนาศักยภาพงานด้านสืบสวนของหน่วยไปในตัว” พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 รับเอาแนวคิดของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้เป็นเสมือนอาจารย์ที่ฟูมฟักมาตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อนไปถ่ายทอดลูกน้อง
ลงแขกแจกการบ้านระดมตามกวาดหมายจับเก่า เรียกทุกคนเข้าแถวนำข้อมูลมานำเสนอ วิเคราะห์ วางแนวทางการสืบสวนติดตามตัวในช่วงระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภท ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2
ควบคู่กับทำโครงการติวเข้มข้าราชการตำรวจระดับชั้นประทวน
เน้นการทำงานเป็นทีม
ล่าสุดรวบหัวหน้าแก๊งลักรถจักรยานยนต์ประวัติก่อคดีโชกโชนในพื้นที่ภาคตะวันออก ภายหลังพบตัวเลขสถิติรถจักรยายนต์หายในอำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง พุ่งสูงลิ่ว ทำให้สุจริตชนหาเช้ากินค่ำได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 สั่งการให้ พ.ต.อ.ธนเสฏฐ์ ประชาชัยศรี ผู้กำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 พ.ต.ท.ศุภกิจ แสงนวกิจ รองผู้กำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 พ.ต.ต.ธนากร เสาวโร สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ร.ต.ท.เชาว์ลิตร์ ทับทิมเทศ รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 นำคลี่คลาย
มีทีมมดงานของกองกำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ประกอบด้วย ด.ต.ปัญญา บุญเทียน ด.ต.ณัฐ สอนตระกูล ส.ต.ท.ฐิติวัตร รุจิวงศ์ ประสานข้อมูลกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจกองปราบปรามการค้ามนุษย์ รวมถึงสถานีตำรวจภูธรปลวกแดง จังหวัดระยอง จับกุม นายคมสันต์ เกี๋ยงคำ อายุ 33 ปีอยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 7 ตำบลวังซ่าน อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ หัวหน้าแก๊งขโมยรถจักรยานยนต์มือหนึ่งของพื้นที่ๆได้บริเวณริมถนนรังสิต ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
ตามหมายจับศาลจังหวัดระยองจำนวน 6 หมายจับข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร” พาตัวไปสอบสวนรับสารภาพติดพนัน และตกงาน เป็นจังหวะมีเพื่อนมาชักชวนให้ก่อเหตุ ทำให้ตัดสินใจเข้าร่วมแก๊งตระเวนลักรถจักรยานยนต์เพื่อหาเงินมาใช้ มีหน้าที่เลือกรถเป้าหมายที่ไม่ล็อกคอ และจอดในที่ลับตาคน เมื่อได้รถมาแล้วจะนำไปขายได้คันละ 5,000-6,000 บาท
