จเรตำรวจสั่งฟัน “จ่าเชิด” บุกทำร้ายอดีตเมีย

 

 

จากกรณีปรากฏข่าวเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์และสื่อมวลชนต่าง ๆว่า มีตำรวจใช้ชื่อ”จ่าเชิด”ก่อเหตุใช้อาวุธปืนบุกพังบ้าน ข่มขู่ และใช้กำลังทำร้ายอดีตแฟน รวมถึงบุคคลในบ้านได้รับบาดเจ็บ เป็นเหตุผลให้พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตำรวจแห่งชาติ สั่ง พล.ต.ต.วิรุฬห์ สุวรรณวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร เร่งดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงและเอาผิดทางวินัย และปกครองอย่างเด็ดขาด ขีดเส้นตายไว้ 3 วัน

ในที่สุด พล.ต.ต.วิรุฬห์ สุวรรณวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร มีคำสั่งที่ 620/2564 ลง 1 พฤศจิกายน 2564 ให้ ด.ต.เชิด สงวนศักดิ์ ผู้บังคับหมู่ป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองชุมพร ให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว หลังจากถูกดำเนินคดีความผิดฐานบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นหรือเข้าไปกระทำการใดๆอันเป้นการรบกวนครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุขในเวลากลางคืนโดยใช้กำลังประทุษร้าย และโดยมีอาวุธติดตัว , ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่น , ทำให้เสียทรัพย์ , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว , ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวตกใจโดยการขู่เข็ญ , ชักหรือแสดงอาวุธในการวิวาทต่อสู้ และกระทำความรุนแรงในครอบครัว รวม 6 ข้อหา

พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติยืนยันว่า ได้รับรายงานข้อสั่งการดังกล่าวจาก พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8  ที่ได้เร่งรัดดำเนินการตามสั่งการภายใน 3 วัน พิจารณาแล้วเป็นกรณีที่ปรากฏหลักฐานการกระทำผิดชัดเจน เพียงพอที่จะใช้ความเด็ดขาดตามกฎคณะกรรมการข้าราชการตำรวจสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง และไม่ให้มีผลกระทบต่อการรวบรวมพยานหลักฐานโดยใช้ตำแหน่งหน้าที่ ตามนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำชับไว้  เรื่องนี้แม้จะมีการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว แต่ได้สั่งการให้จเรตำรวจติดตามการดำเนินการทั้งคดีอาญา และการดำเนินการทางวินัยต่อไปให้เกิดความเป็นธรรมตามข้อเท็จจริง

RELATED ARTICLES