โลกของคนชอบสงสัยและติดตามค้นหาเพื่อสร้างราคาให้ตัวเองกำลังกลายเป็น “โรคระบาดหนัก” ตามสังคมโซเชียล
ชอบมือถือไมค์ ไฟส่องหน้า ตามภาษาชาวเน็ตว่า “หิวแสง” แสดงความรอบรู้เป็นผู้เชี่ยวชาญขุดเอาสารพัดตรรกะมาหักล้างสมมติฐานที่ตัวเองมองแตกต่าง
ยิ่งประกาศตัวเป็น “คู่ฟัดกัด” กับผู้รักษากฎหมายอย่างเจ้าหน้าที่ตำรวจเหมือนได้ “อวดองค์ความรู้”และมีประชาชนเทคะแนนเข้าข้างมากมาย
ด้วยความที่องค์กรตำรวจต้นทุนทางสังคมต่ำ
ต่ำจนขาดความน่าเชื่อถือ แม้ทำทุกอย่างละเอียดถูกต้อง ยังไม่ถูกใจคนดู
มีเรื่องเล่าในอดีตเหมือนนิทานปรัมปราในอดีตปั่นฝุ่นกี่รอบคนฟังอาจตะลึงว่าที่ผ่านมา หลงมนต์เสน่ห์จนทึกทักเอาว่าตัวละครบางรายเป็นเพียงแค่พวกชอบเขียนบท “นิยายชวนเชื่อ”
นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง “แจ้งเกิด” จากผลงานติดตามคดีลูกศิษย์ชำแหละศพแฟนสาวเป็นข่าวเกรียว กราวอำมหิตสะท้านกรุง
นักวิทยาศาสตร์สวมบทเอกในซีรีส์สืบสวนสอบสวนพิสูจน์คดีพิชิตแฟ้มตัดหน้าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ก่อนด่วนสรุปกะโหลกปริศนาที่เจอในลำน้ำภาคตะวันออกเป็นผู้ชายแล้วโยนทิ้งเข้ากอง ไม่สนใจจะหยิบเอามาเทียบเคียงภาพเชิงซ้อนให้แน่ชัดอีกครั้ง กระทั่งหมอนิติเวชตำรวจเฉลียวใจหยิบกับมาพิจารณาใหม่ หลังจากคดีเริ่มเข้ารกเข้าพงเข้าไปค้น “กองขี้” ตามคำรับสารภาพของ “ผู้ต้องหาใจทมิฬ”
หมอตำรวจยืนยันเป็นกะโหลกผู้หญิง “ถูกยิงเจาะหัว” เมื่อเทียบเคียงภาพเชิงซ้อน คือเหยื่อสาวที่ทุกคนตามหา
ทว่าไม่มีราคาและคุณค่าพอที่จะ “ลดออร่า” ของแสงสว่างนักวิทยาศาสตร์ตัวละครเอกที่มักประกาศตัวเป็นไม้เบื่อไม้เมา “จ้องจับผิด” ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ในคราบ “นักบุญคนบาป”
“รูกระสุนเข้า กระสุนออกยังไม่รู้เลย” นายตำรวจบางคนค่อนขอด
“ยาบ้ากับยาอียังแยกไม่ออกด้วย”
ไม่ช้าไม่นานนักวิทยาศาสตร์คนเดิมหันมาจับงานใหม่คดีใหญ่เบิ้ม ด้วยการพิสูจน์ภาพถ่ายศพในคฤหาสน์ตระกูลดัง นำเอาทฤษฎีสารพัดตามหลักผู้เชี่ยวชาญบอกปริศนาฆาตกรรมชวน “ตำรวจอาร์มสวย” ช่วยรื้อแฟ้มคดี
แตงโมตกเป็นเหยื่อพิสูจน์ซาก
น้องชายตกเป็นผู้กล่าวหาอยู่เบื้องหลังการตายของพี่ชาย
สะใจบรรดากองเชียร์ แต่ผลที่สุดแห่งคดีไม่มีอะไรมากกว่า “อัตวินิบาตกรรม” ที่สรุปไว้ตั้งแต่แรก
หมดค่าแตงโมไปหลายลูก
กระนั้นไม่เลวร้ายเท่าเป็นคดีฟ้องร้องกันเรื่องหมิ่นประสาท กรณีนักกีฬาแม่นปืนยังตัวตายหนีผิดระหว่างตำรวจปิดล้อมกดดัน
“เป็นไปไม่ได้ที่ยิงถึง 5 นัด” นักวิทยาศาสตร์คนดังยืนกระต่ายขาเดียว
เปิดไขปริศนาต้องมีการ “จัดฉาก” วิสามัญฆาตกรรม
สังคมเริ่มคล้อยตามความเห็นนักวิทยาศาสตร์คนเดิม
นิทานเรื่องนี้ถึงสอนให้รู้ว่า ความจริงอาจไม่มีเพียงหนึ่งเดียว หรือ อาจไม่มีอยู่จริง จากนิยายปรัมปราของนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง
ผู้ที่ซึ่งกล้าการันตีเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดดีกว่าไม้ส่องหาวิญญาณ ผลาญงบประมาณชาติไปมากมายมหาศาลปะปนอยู่กับ “ซากกองวีรบุรุษ” บนสมรภูมิปลายด้ามขวาน
เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ชอบหากินอยู่กับความตายทำลายความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม
ทำลายความเชื่อมั่นของตำรวจ