ระดมตำรวจนอกเครื่องแบบบสวมรอยพนักงานเซเว่นรวบโจรชิงทรัพย์

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7  พร้อมด้วย พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร พ.ต.อ.พัฒน์ปกรณ์ ชั้นประเสริฐ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร พ.ต.อ.สราวุธ ศรีชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร พ.ต.อ.ยอดชาย แก้วเรือง ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร แถลงข่าวจับกุม นายประพจน์ คชรัตน์ อายุ 36 ปี ที่อยู่ 27/63 หมู่ 4 ตำบลท่าจีน อำเภอเมืองสมุทรสาคร  พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน  หมวกกันน็อกแบบเต็มใบ ยี่ห้อ INDEX สีดำ ด้านหลังมีสติ๊กเกอร์ 811 จำนวน 1 ใบ เสื้อคลุมแขนยาว สีดำ 1 ตัว กางเกงยีนส์ขายาว สีน้ำเงิน 1 ตัว ถุงมือผ้า สีเทา  1 คู่ รองเท้าหนังเทียม ยี่ห้อ PUMA สีขาว แถบสีดำเลือดหมู  1 คู่ กางเกงยีนส์ขายาว สีดำ ยี่ห้อ Mc (พบอยู่ใต้เบาะ)  1 ตัว รองเท้าแตะแบบสวม สีน้ำเงินคาดเหลือง 1 คู่ แผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข 1 กฒ 4870 สมุทรสาคร   1 แผ่น มีดปอกผลไม้ สแตนเลส ด้ามสีดำ 1 เล่ม

พฤติการณ์ในการจับกุม เนื่องด้วยมีเหตุคนร้ายใช้มีดชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาปากทางสวนส้ม ตำบลบางกระเจ้า อำเภอเมืองสมุทรสาคร  ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดประมาณ 10,000 บาท หลังก่อเหตุใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น PCX สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนหลบหนี  สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาครเรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ วิเคราะห์พฤติกรรมคนร้าย วางแผนการตรวจป้องกันเหตุ สำรวจข้อมูลร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในพื้นที่มีทั้งหมด 99 แห่ง แต่คนร้ายยังลงมือก่อเหตุที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาเอกชัย 15 (เดอะพราว) ตำบลมหาชัย อำเภอเมือง สมุทรสาคร ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดประมาณ 7000 บาท

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้าน 7-11 ที่เกิดเหตุและจากกล้องวงจรปิดของรถโมบาย CCTV UNIT ที่จอดป้องกันเหตุอยู่บนถนนเอกชัย บริเวณแยกหมู่บ้านเดอะพราว ตำบลมหาชัย ทำให้เห็นตำหนิรูปพรรณของคนร้ายและรถที่นำมาใช้ก่อเหตุได้ชัดเจนยิ่งขึ้น  ทราบว่ารถที่คนร้ายนำมาใช้ก่อเหตุเป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ฮอนด้า รุ่น PCX สีแดง วงล้อสีทอง มีการวางแผนเตรียมการเป็นอย่างดี เลือกในจุดที่ห่าง หรือไม่มีกล้องวงจรปิด คอยสังเกตดูที่ร้าน 7-11 ที่จะก่อเหตุ หากไม่มีลูกค้าหรือช่วงที่ปลอดคนจะเข้าไปภายในร้านและกระโดดข้ามเคาน์เตอร์เข้าไปหาพนักงาน ตะโกนคำว่า “นี่คือการปล้น” และใช้มีดจี้บังคับพนักงานให้เปิดช่องเก็บเงิน แล้วส่งเงินให้ ช่วงเวลาที่เกิดเหตุเป็นช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป

ต่อมา พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร เรียกประชุมระดมจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ แต่งชุดพนักงานเชเว่น หรือชุดนอกเครื่องแบบ ไปประจำร้านเซเว่นทุกสาขาในเขตพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 99 แห่ง ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ไม่ติดภารกิจอื่น แต่งกายชุดนอกเครื่องแบบออกตะเวนตรวจเต็มพื้นที่ เพื่อหารถจยย.และคนร้ายตามลักษณะดังกล่าว ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน ถึง เวลา 05.00 น. พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วทั้งรถยนต์ และรถ จยย.คอยสนับสนุน ติดตาม หากพบผู้ต้องสงสัย หรือพบตัวผู้ก่อเหตุ กระทั่งเจ้าพนักงานตำรวจที่เฝ้าประจำร้าน 7-11 สาขาซอยบ้านปลายคลองครุ(ใกล้โรงแรมโนอาร์) สังเกตพบชายต้องสงสัยแต่งกายลักษณะและใช้ยานพาหนะคล้ายกับคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ได้แจ้งผู้บังคับบัญชาและแจ้งศูนย์วิทยุเพื่อสกัดติดตามก่อนควบคุมตัวชายคนดังกล่าวได้ที่บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานต่างระดับเข้าเมืองสมุทรสาคร ถนนเศรษฐกิจ หมู่ 7 ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร นำตัวไปสอบสวนรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุใช้มีดตระเวนชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในพื้นที่เมืองสมุทรสาครหลายแห่ง

RELATED ARTICLES