บิ๊กหินติวเข้มรับมืออาชญากรรมข้ามชาติ

 

หลังรัฐบาลเริ่มใช้มาตรการเปิดประเทศตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565 คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มทยอยเข้าประเทศเพิ่มปริมาณสูงขึ้น และมีแนวโน้มการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายข้ามชาติสูงขึ้นตามไปด้วย พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ในมิติการสกัดกั้นปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ และหลบหนีเข้าเมืองในประเทศไทย ได้จัดสัมมนาระดมนักสืบมือดีจากส่วนกลาง ทั้งสันติบาล สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยพื้นที่จากตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อระดมความคิด แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน บนเวทีสัมมนาบูรณาการการข่าวที่จังหวัดภูเก็ตกว่า 30 นาย มีกูรูสืบสวนมือดีด้านอาชญากรรมข้ามชาติมาเป็นวิทยากร เช่น พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และมี พล.ต.ต.วรวัฒน์ อมรวิวัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ปรมาจารย์ข่าวกรอง เป็นผู้ควบคุม Moderator ทั้งหมดโดยภาพรวม

พล.ต.อ.วิสนุกล่าวว่า ประเทศไทยมีสถานะเป็นประเทศที่มีภูมิยุทธศาสตร์กึ่งกลางภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องรองรับการเคลื่อนย้ายของคนต่างชาติทั่วโลกในฐานะประเทศศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของภูมิภาคด้วย มีความเสี่ยงต่อการเคลื่อนไหวและเป็นแหล่งพำนักของอาชญากรรมข้ามชาติลักษณะต่างๆ โดยเฉพาะการใช้ประเทศไทยเป็นพื้นที่โต้ตอบกันระหว่างกลุ่มประเทศคู่ขัดแย้ง รวมถึงการใช้ประเทศไทยเป็นพื้นที่ก่ออาชญากรรมเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อเหยื่อในประเทศอื่น เช่น กลุ่ม Cyber crimes เป็นต้น

อย่างไรก็ตามก่อนเปิดสัมมนา พล.ต.อ.วิสนุถือโอกาสแถลงผลการจับกุมทลายเครือข่ายคนร้ายข้ามชาติสำคัญ 5 ราย ได้แก่ คดีจับคนร้ายยูเครนหลีกเลี่ยงชำระภาษีจ้างงานกว่า 10 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา เป็นการประสานงานร่วมกับ Homeland Security Investigations ของสหรัฐอเมริกัน คดีแก็งแสกมเมอร์ผิวสีหลอกขายสินค้าบนเว็บไซด์และลวงหญิงไทยเป็นม้าเปิดบัญชีซ้อมปางตาย คดีแก๊งเงินดำหลอกผู้เสียหายสูญ 20 ล้าน คดีรวบแก๊งปาร์ตี้เสพเคตามีนพัทยา และ คดีรวบนักพนันรัสเซียเปิดคอนโดหรูเล่นพนันออนไลน์

ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย้ำว่า ปัญหาสำคัญในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ คือ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติขาดความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านอาชญากรรมข้ามชาติ เนื่องจากผู้ปฏิบัติจำเป็นต้องทราบถึงบริบททางสังคมระหว่างประเทศโดยภาพรวมด้วย รวมถึง ปัญหาในการประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ดังนั้น ในการสัมมนาครั้งนี้ เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัตินำปัญหามาถกแถลงกันอย่างตรงไปตรงมา และร่วมกันนำเสนอแนวทางแก้ไข  โดยข้อเสนอต่าง ๆ มีทั้งในส่วนแนวทางที่สามารถกลับไปลงมือปฏิบัติได้ทันที ปัญหาที่ต้องอาศัยการสั่งการจากระดับนโยบาย  ประเด็นนี้จะรับกลับไปนำเสนอต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อนำไปสู่การแก้ไขต่อไป  ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการแก้ไขด้านระเบียบ ข้อกฏหมาย และ การปรับปรุงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจากส่วนกลาง รวมถึงการประสานข้อมูลข่าวสาร และความร่วมมือระหว่างประเทศต่อไป จากการฟังผลการสัมมนาครั้งนี้  นับว่าเป็นประโยชน์ต่อการรับมือกับการเปิดประเทศ และ ตรียมรองรับการเป็นเจ้าภาพประชุมผู้นำประเทศในกลุ่มเอเปคในช่วงปลายปีต่อไปด้วย

RELATED ARTICLES