ถึงโครงการจะดีอย่างไรย่อมไม่พ้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม
ต่างจิต ต่างใจ ต่างความคิด และต่างมุมมอง
จากหนังสือบันทึกข้อความเรื่อง บริจาคเงินสมทบ “กองทุนสวัสดิการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” เพื่อช่วยเหลือช้าราชากรตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ และเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่
ระบุถึงความจำเป็นต้องจัดหาเงินสมทบกองทุนสำหรับค่าใช้จ่ายในภารกิจดังกล่าว
ด้วยสำนักงานตำรวจแหงชาติ มีหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาญา การรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของประชาชน ความมั่นคงในราชอาณาจักร ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
ตลอดทั้งภัยสังคมที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าระงับเหตุการณ์โดยไม่คาดคิด รวมถึงการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่แพร่ระบาดในสังคม
ลักษณะงานของตำรวจจึงมีความเสี่ยงอันตรายต่อการสูญเสียชีวิต บาดเจ็บและทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่
เป็นเหตุผลให้คณะกรรมการสวัสดิการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีมติในการประชุมครั้งที่ 4/2565 เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2565 อนุมติให้จัดทำ “โครงการขอรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ และเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่”
หวังนำไปช่วยเหลือสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่
มีการขอความร่วมมือจากข้าราชการตำรวจและลูกจ้างประจำร่วมบริจาคเงิน ตามตำแหน่งและอัตราขอรับบริจาค (ต่อปี ) ตั้งแต่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นเงิน 10,000 บาท พล.ต.อ. เป็นเงิน 5,000 บาท พล.ต.ท. เป็นเงิน 3,000 บาท พล.ต.ต. เป็นเงิน 2,000 บาท พ.ต.อ. เป็นเงิน 1,000 บาท พ.ต.ท. เป็นเงิน 500 บาท พ.ต.ต. เป็นเงิน 400 บาท ร.ต.อ. เป็นเงิน 300 บาท ร.ต.ท. เป็นเงิน 200 บาท ร.ต.ต.เป็นเงิน 150 บาท, ด.ต. – ส.ต.ต นักเรียนนายร้อยตำรวจ นักเรียนนายสิบตำรวจ และ ลูกจ้างประจำ บริจาคในอัตราเท่ากันคือ 100 บาทต่อปี
” ไม่เข้าใจว่า ทำไมการบริจาคเงิน ถึงจะต้องมีการกำหนดอัตราขอรับบริจาคไว้ชัดเจนขนาดนี้ด้วย แบบนี้ไม่น่าจะเรียกว่าการบริจาคเงิน เพราะการบริจาคนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับหลักของความสมัครใจมากกว่า” มีเสียงสะท้อนความเห็นต่างผ่าน สำนักข่าวอิศรา
ทั้งที่เป็นวัตถุประสงค์ของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งใจอยากเชิญชวนข้าราชการตำรวจและลูกจ้างประจำในสังกัดร่วมบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่
ด้วยเพราะสักวันหนึ่งอาจเป็นเรา หรือใครสักคนในครอบครัวสนิทใกล้ชิด