เปิดเกมล่าพี่น้องทรชนโจรใจเหี้ยม

 

หน่วยเหนือเปิดสัญญาณไฟเขียวแล้ว

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 อยากใช้ศัพท์โบราณกับลูกน้องรุ่นใหม่ แต่ยังชั่งใจ “อุบไต๋” ไว้ รอแค่เวลาเก็บฉาก

“รอผู้การก่อนนะ”

ทว่าเหตุการณ์ไม่ได้ลงตัวตามอย่างที่คิด สอนบทเรียนแก่ผู้ปฏิบัติ

คำว่า “รอ” คือ อะไร

จากคดีสะเทือนขวัญอุกอาจกลางเมืองศรีราชาเมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 12   สิงหาคม 2565   คนร้ายดักจี้ชิงทรัพย์ นายปิยวัฒน์ แซ่เล่า อายุ 27 ปี ที่ลงจากรถมากับ น.ส.ธัญญารัตน์ สร้อยสุวรรณ อายุ 24 ปี แฟนสาว บริเวณลานจอดรถตรงข้าม GROOVY CONDO ซอยคอนโด หมู่ 8 ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อจะขึ้นห้องพักตามปกติ

มีการยื้อแย่งกระเป๋า ส่งผลให้ฝ่ายชายถูกคนร้ายจ่อยิงที่ศีรษะล้มฟุบอาการสาหัสไปสิ้นลมที่โรงพยาบาลในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการด่วนให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ควบคุมการปฏิบัติให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 2  เป็นแม่งาน “ไล่ล่ามือปืน” พร้อมกำลังของ พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์  กิจจาหาญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี

มันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นคดีชิงทรัพย์ธรรมดาที่อุกอาจสะเทือนขวัญชาวบ้าน

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ส่ง พ.ต.อ.มาโนต หวังสู้ศึก ผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2  พ.ต.ท.ประจักษ์พงษ์ สุริยา รองผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2  พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2  พ.ต.ต.เอกกร วรรณทอง สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2  พ.ต.ต.ภาณุวิทย์ เพชรแทน สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2  พ.ต.ท.พุฒิพัฒน์ โกสินอภิวัฒน์ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2  ระดมมือดีทั้งกองควานหาทั่วพื้นที่ภาคตะวันออก

ประกอบกำลังสถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง มี พ.ต.ท.ยสินทร คำชุม รองผู้กำกับการสืบสวน ร.ต.อ.ทศพล สุขเปี้ย รองสารวัตรสืบสวน จ.ส.ต. อนิรุจน์ โกษากูล ผู้บังคับหมู่งานจราจร สถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง

เริ่มเปิดเกมล่าทรชนโจรใจเหี้ยม

ไล่กล้องวงจรปิดพบรถต้องสงสัยยี่ห้อโตโยต้า คัมรี สีเทา ทะเบียน งฉ 1891 นครราชสีมา ตรวจสอบแล้วแทบตกตะลึงเมื่อเป็นรถของ นายสหรัฐ ชาติวัฒนสุคนธ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200 หมู่ 8 ตำบลบัลลังก์ อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา

เหยื่ออีกรายที่ถูกคนร้ายชิงรถไปเมื่อกลางดึกวันที่ 10 สิงหาคม 2565 เพียง 2 วันก่อนหน้า

สอบปากคำผู้เสียหายได้ความว่า ขับรถมาจอดบริเวณถนนพัทยาสาย 3 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี มีคนร้าย 2 คนใช้ปืนจี้บังคับให้ไปอยู่ในกระโปรงท้ายรถ จากนั้นคนร้ายขับพาไปทิ้งไว้ในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา สั่งให้วิ่งหนี ไม่เช่นนั้นจะยิงทิ้ง ก่อนมีเสียงปืนดังไล่หลังมา 1 นัด ส่วนคนร้ายชิงรถเก๋ง พร้อมโทรศัพท์มือถือไอโฟน เงินสดอีก 1,000 บาทหลบหนีไป

นักสืบปะติดปะต่อ “จิ๊กซอว์” ต่อเนื่องจากท้องที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา คลำเส้นทางคนร้ายจนพบรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน มาร์ช สีฟ้า ไฟซีนอน วิ่งตามรถผู้เสียหายที่ถูกชิงทรัพย์มาไปยังเมืองแปดริ้ว

สันนิษฐานเป็นเพื่อนร่วมแก๊ง

ร.ต.อ.วุฒินันต์ คงดี รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ผลผลิตจากโครงการอบรม หลักสูตรนักสืบ 5 G ของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ค้นหาข้อมูลในโลกโซเชียลจนพบมีผู้โพสต์ตำหนิรูปพรรณของรถนิสสัน มาร์ช สีฟ้า ไปจอดอู่ประดับยนต์แห่งหนึ่งในเมืองชลบุรีเพื่อเปลี่ยนล้อแม็กซ์

มีการโอนเงินซื้อล้อแม็กซ์เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญพิสูจน์ทราบตัวผู้ต้องสงสัย คือ นายนราธิป หรือกอล์ฟ คุ้มภัย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 11 ตำบลแม่จัน อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย  และ นายชยณัฐ หรือ นัท คุ้มภัย อายุ 23 ปี น้องชาย อยู่บ้านเลขที่ 158 หมู่ 1 ตำบลโคกหม้อ อำเภอเมืองราชบุรี

ทั้งคู่มีประวัติเคยถูกจับกุมในความผิด ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ และเสพยาเสพติดมาแล้วหลายคดี

ทีมนักสืบฉลามร้ายแห่งชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกกลับมาไล่กล้องวงจรปิดสาวต่อไปถึงรังของ “พี่น้องใจเหี้ยม” บริเวณหอพัก สตูดิโอ 77 ตำบลโคกแย้  อำเภอหนองแค  จังหวัดสระบุรี

เฝ้าอยู่ไม่นานปรากฏร่างที่ลานจอดรถ กำลังตำรวจสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 จู่โจมเข้าตะครุบตัวทันที

ด้วยความดีใจที่เจอเป้าหมายจนลืมคำสั่งให้รอของผู้นำหน่วย

แต่ถือเป็นผลงาน “โบแดง” พิชิตแฟ้มคดีอำมหิตได้ในเวลาอันรวดเร็ว

เกิดจากพลังร่วมแรงร่วมใจ “ลงแขก” แจกการบ้านไม่แบ่งแยกหน่วยงานจนประสบความสำเร็จ