ขยับเข้าใกล้เกมจัดสำรับ “กองทัพสีกากี” วาระประจำปี 2565
ว่ากันว่าไม่เกินปลายเดือนสิงหาคมนี้จะเห็นหน้าค่าตาผู้ที่จะมาเป็น “พิทักษ์ 1” คนใหม่แทน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ครบเกษียณอายุราชการ
ตัวเต็งยังคงเป็น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 38 แม้เหลืออายุราชการเพียงปีเดียว แต่ทำให้ถนนทุกสายกำลังเริ่มเทไปหาขั้วอำนาจ “ว่าที่แม่ทัพ” เป็นธรรมดาของธรรมชาติวงเวียนวิถีชีวิตข้าราชการ
ตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่าง 4 อัตรา ขับเคี่ยวกันเพื่อชิงหลักในบั้นปลาย
พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ปริญญาตรีด้านบริหาร มหาวิทยาลัยเซ็นทรัลมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีปทุม เกษียณอายุราชการปี 2566 พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกษียณอายุราชการปี 2567 พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 41 เกษียณอายุราชการปี 2569 ยังภาษีดีสุด
เหลืออีกตัวเดียวจะมีไว้ให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 47 นายพลดาวรุ่งอนาคตไกลที่ครบเกษียณอายุราชการปี 2574 หรือไม่ ต้องถามใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้กุมอำนาจ “หัวโต๊ะ” การพิจารณาจัดทัพนายพลสีกากี
เมื่อ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 39 เกษียณอายุราชการปี 2568 และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 42 เกษียณอายุราชการปี 2569 ขอสับเท้าเข้าท้าชิงด้วย
ระดับผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่าง 6 ตำแหน่ง พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้บัญชาการศึกษา นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 43 อาวุโสอันดับต้น “จองคิว” ไว้เรียบร้อย แต่เหลือหลายคนยังอยากอยู่ต่อ โดยเฉพาะ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 41 อาวุโสลำดับสอง
ทว่าเป็น “เก้าอี้ทอง” ที่หลายคนหมายปองจ้องอยากมาลองขับเคลื่อนสวมบท “ มือปราบไซเบอร์”
ต่างจากกลุ่มอาวุโสน้อยไม่ขอคอย พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติฉบับใหม่ เลือกใช้สิทธิขยับขึ้นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไป “ยืนหัวแถว” ในอนาคตดีกว่า
กะเก็งกันว่า พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 50 อายุราชการเหลือถึงปี 2576 ปักป้ายแซงนายตำรวจรุ่นพี่กับ “ขบวนรถด่วน” เที่ยวนี้อย่างแน่นอน
ผิดกับเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง อายุราชการยาวไกลถึงปี 2579 “ตั๋วดี” แต่ไม่ขอใช้สิทธิ
“ผมไม่รีบ” เจ้าตัวแพลมกับคนใกล้ชิด “ผมมีความสุขกับการได้มีโอกาสใช้เวลาพัฒนาหน่วย”
นายพลตำรวจโทหนุ่มสนุกกับการได้เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาทำผลงานปราบปรามอาชญากรรมเพื่อความสงบของบ้านเมือง
ขณะเดียวกันยังมีอีกหลายโครงการที่ค้างคาต่อเดินหน้าสานต่อให้เสร็จเรียบร้อยเพื่อให้องค์กรของตัวเองเป็น “มืออาชีพ”
เขาภูมิใจที่ได้เห็นการเติบโตอาคารหลังใหม่ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังจากถูกทิ้งร้างมานานหลายปี กระทั่งตัวเขายอมควักกระเป๋าส่วนตัวระดมเม็ดทุนให้งานก่อสร้างไหลลื่นจนสำเร็จเสร็จเรียบร้อย
มี พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาเป็นพิธีเปิดภายใต้ชื่อ “อาคารพิทักษ์สันติ”
ไม่ต่างจากต้นไม้ที่ต้องรดน้ำพรวนดินจนเจริญงอกงามแข็งแรงขึ้น
มีความสุขกับการเนรมิตสนามกีฬาเพื่อให้ลูกน้องและครอบครัวมาออกกำลังกายท่ามกลางรอยยิ้มของทุกคน
“นี่แหละความสุขที่แท้จริงของผม” นายพลหนุ่มว่า
ไม่จำเป็นต้องไปแข่งกับใคร