ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พร้อมด้วย
พ.ต.อ.ทรงพล สังข์เกษม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก พ.ต.อ.จักรพงษ์ เคนทวาย
ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ปฏิบัติราชการตำรวจภูธร ภาค 6 พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวกรณีนายปฏิวัติ ไทยสม อายุ 31 ปี ชาวพิษณุโลก ลูกชายอดีตพนักงานธนาคารแห่งหนึ่งอายุ 56 ปี ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกั น.ส.สิตางค์ ทองรำพรรณ อายุ 46 ปี ชาวพิษณุโลก ลักโทรศัพท์มือถือของบิดาที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา เพื่อใช้เข้าถึงข้อมูลและทำธุรกรรมทางการเงินผ่านแอปพลิเคชัน โอนเงินจากบัญชีธนาคารของผู้เสียชีวิตเข้าบัญชีธนาคารของตัวเองไปโดยทุจริต รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 15,790,000 บาทที่เป็นเงินเก็บก้อนสุดท้ายของผู้เสียชีวิต
คดีดังกล่าวเป็นคดีที่มีความน่าสนใจ พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดพร้อมติดตามทรัพย์สินคืนให้ผู้เสียหายโดยเร็วจนสืบทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีมาพักอยู่ที่บ้านในพื้นที่หมู่ที่ 6 ตำบลวัดจันทร์ อำเภอเมืองพิษณุโลก ตำรวจได้ยื่นขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดพิษณุโลกเข้าจับกุม พบของกลาง เงินสด 2,329,000 บาท ทองคำแท่ง น้ำหนัก 10 บาท จำนวน 1 แท่ง มูลค่า 299,500 บาท รถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลต สีเทา เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เสียชีวิต โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง สมุดบัญชีเงินฝาก จำนวน 6 เล่ม สำเนาเอกสารและทรัพย์สินอื่น ๆ อีกจำนวนหลายรายการ ก่อนสืบสวนขยายผลจนรู้ที่ซ่อนของเงินสดส่วนที่เหลือและสามารถติดตามยึดคืนได้อีก 12,000,000 บาท ซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทางที่ช่องเก็บยางอะไหล่หลังรถยนต์มิตซูบิชิ สีเทา ที่จอดอยู่ภายในบ้านแห่งหนึ่ง ถนนประชาอุทิศ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก
