ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ต.วิวัฒน์ คําชํานาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สั่งการให้ พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 พ.ต.ท.ประเสริฐ หวังบุญสร้าง รองผู้กำกับการกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 พ.ต.ท.นิธิวัชร์ อัครสุพัฒน์กุล รองผู้กำกับการสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 นำกำลังจับกุมตัวผู้ต้องหา (บัญชีม้า) ตามหมายศาลจังหวัดภูเก็ตในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่นโดยทุจริต เพื่อหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง เพื่อให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” รวม 7 ราย
จับได้ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย 3 ราย กรุงเทพมหานคร 3 ราย จังหวัดอ่างทองอีก 1 ราย ประกอบด้วย น.ส.เยาวลักษณ์ ไพรดี อายุ 40 ปี นายกฤษณพงศ์ เชื้อเจริญ อายุ27 น.ส.ดวงกมล นาคเอม อายุ 22 ปี นายทีปวัตร ชนะสิทธิ์ อายุ 35 ปี นายบรรจง อภิมน อายุ 40 ปี นายวัชรวิทย์ สมบัติ อายุ 28 ปี น.ส.กรรณิกา ศาสตรา อายุ 33 ปี นายสำรอง ไชยพรม อายุ 48 ปี (อายัดตัว) และนายสิทธิกร ศรีศิริ อายุ 24 ปี อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว
สืบเนื่องจากองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 ได้รับการประสานงานจากสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต หลังมีผู้เสียหายถูกหลอกลวงจากการลงทุน “BITMOXA” เป็นกลุ่มคนร้ายวางแผนเป็นขบวนการหาเหยื่อผู้เสียหายในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ออกอุบายให้เข้ามาพูดคุยช่องทางไลน์แล้วหลอกให้ร่วมลงทุน อ้างมีผลกำไรตอบแทนอย่างดี พร้อมส่งเว็บไซด์ Bitmoxa.com ให้ผู้กล่าวหาติดตั้งแอปพลิเคชันไว้ในโทรศัพท์สมัครลงทุน ครั้งแรกได้กำไรจริง และสามารถถอนเงินออกจากระบบได้อย่าง่ายดาย ทำให้หลงเชื่อว่าสามารถถอนเงินออกจากระบบได้จริง เป็นการลงทุนที่มีความมั่นคงและง่าย และสบาย ได้กำไรดี ผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ลงทุนครั้งแรก 60,000 บาท สามารถถอนเงินทุนพร้อมกำไรก่อนหลงเชื่อลงทุนอีกหลายครั้ง ความเสียหายรวม10 ล้านบาท ต่อมากลับไม่สามารถถอนเงินได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนตรวจสอบความเชื่อมโยงคดี นระบบแจ้งความออนไลน์ ที่ผู้เสียหายได้แจ้งไว้ พบว่ายังมีคดีความเชื่อมโยงอีก 7 Case ID มีผู้เสียหายกระจายอยู่ในจังหวัดภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ จำนวนมาก แสดงให้เห็นว่ากลุ่มคนร้ายมีเจตนาหลอกลวงประชาชน เบื้องต้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับว่าเป็นคนเปิดบัญชีม้าจริง ได้ค่าจ้างเปิดบัญชีต่อครั้งละ 4,000 บาท ถึง 10,000 บาท นำตัวผู้ต้องหานำส่งสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต สอบสวนขยายผลผู้ร่วมกระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
