หลังจากมีคนร้ายลักลอบขโมยเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator หรือ AED) ของสภากาชาดไทยจำนวนมากตามสถานที่สำคัญติดตั้งไว้เพื่อช่วยผู้ป่วยหรือประชาชนฉุกเฉิน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มอบหมาย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการจับกุมคนร้าย และติดตามเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator หรือ AED) โดยเร็วเนื่องจากสร้างความเสียหายให้กับสังคมเป็นอย่างมาก
ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ 5 ศูนย์อำนวยการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำกำลังประกอบด้วย พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผู้กำกับการ (สอบสวน) กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดระยอง พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 พ.ต.อ.วราวัชร์ ธรรมสโรช ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลตลิ่งชัน ร.ต.อ.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ รองสารวัตรกลุ่มงานการข่าว กองบังคับการข่าวกรองยาเสพติด ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล บูรณาการกำลังออกติดตาม
กระทั่งจับกุมตัวนายรุ่งโรจน์ ละออแช่ม อายุ 37 ปี หรือฉายาเหน่ง ตาเดียว อยู่บ้านเลขที่ 21/3 หมู่ 6 ซอยวัดไก่เตี้ย แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ได้ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ภายในบริเวณวัดไก่เตี้ย แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร และนายวีรยุทธ หรือแจ็ค นนท์ปาน อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 173/5 ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ได้ที่ริมถนนในซอยจรัญสนิทวงศ์ 28/7 แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ตรวจยึดของกลางเป็นเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator หรือ AED) 5 เครื่อง
สืบเนื่องจากได้มีกลุ่มคนร้ายตระเวนลักเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator หรือ AED) ที่ติดไว้อยู่ตามสถานที่สำคัญต่างๆในพื่นที่กรุงเทพมหานคร ทีมสืบสวนนครบาลออกติดตามจนสืบทราบว่า นายรุ่งโรจน์ หรือละออแช่ม อายุ 37 ปี อดีตเจ้าหน้าที่กู้ภัยย่านบางกอกน้อยได้มีการโพสต์ข้อความในโลกออนไลน์ ประกาศขายเครื่องในราคาที่ต่ำผิดปกติ จึงออกติดตามตรวจสอบสวนบ้านพักภายในซอยวัดไก่เตี้ย แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร พบตัวนายรุ่งโรจน์ที่ยอมรับสารภาพตระเวนลักเครื่องตามที่ต่างๆใน จ.กรุงเทพฯ ไปแล้วกว่า 6 เครื่อง แต่ได้จำหน่ายออกไปจนหมด
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ขยายผลจนทราบจุดที่ลักเครื่องทั้ง 6 แห่ง คือ บริเวณป้อมตำรวจแยกวรจักร แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ก่อเหตุเมื่อก่อนประมาณวันที่ 20 ธันวาคม 2565 บริเวณป้อมตำรวจซอยเจริญกรุง 43 แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ประมาณวันที่ 26 ธันวาคม 2565 บริเวณป้อมตำรวจ แยกเจริญสวัสดิ์ แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ประมาณวันที่ 3 มกราคม 2566 บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกแม้นศรี แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร เมื่อประมาณต้นเดือนมกราคม 2566 บริเวณป้อมตำรวจ ถนนพระรามที่ 4 แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร เมื่อประมาณต้นเดือนมกราคม 2566 และบริเวณป้อมตำรวจ ห้าแยกหมอมี ถนนเจริญกรุง แขวงสัมพันธ์วงศ์ เขตสัมพันธ์วงศ์ กรุงเทพมานคร เมื่อประมาณกลางเดือนมกราคม 2566
ทั้ง 6 เครื่องที่โดนขโมยไปได้ขยายผลทราบว่าถูกนำขายให้กับ นายวีรยุทธ หรือแจ็ค นนท์ปาน อายุ 32 ปี เพื่อนกู้ภัยย่านบางกอกน้อยเช่นเดียวกัน ในราคาเครื่องละ 12,000 บาท สอบสวน นายรุ่งโรจน์ ละออแช่ม สารภาพว่า ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยอิสระอยู่ละแวกเขตบางกอกน้อย ขณะทำงานกู้ภัยได้พบเห็นเครื่อง ติดอยู่ทั่วไป เหตุจูงใจแรกเริ่มลงมือเพราะต้องการเงินเพื่อนำไปใช้ซ่อมรถที่จอดเสียอยู่ แอบไปลักเครื่องย่านวัดเทพศิรินทราวาส เมื่อนำไปขายพบว่าราคา 15,000 บาท และเมื่อมีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อๆไป ยอมรับว่าลักมาแล้ว 6 เครื่อง ให้นายวีรยุทธ นนท์ปาน เพื่อนเจ้าหน้าที่กู้ภัยด้วยกันช่วยหาคนซื้อ หากหาได้จะแบ่งให้ เครื่องละ 3,000 บาท
ส่วน นายวีรยุทธบอกว่า เป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยอิสระอยู่ย่านเขตบางกอกน้อย และได้รู้จักกับนายรุ่งโรจน์ ละออแช่ม มาประมาณ 4 ปี ต่อมาติดต่อกับนายรุ่งโรจน์ฯทางเฟซบุ๊กไหว้วานให้ขายเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ นายรุ่งโรจน์ยืนยันว่าไม่ได้เป็นของที่ขโมยมา แต่ตนยังสงสัยเพราะราคาที่ซื้อขายนั้นต่ำกว่าราคาจริง เมื่อขายได้จะแบ่งให้เครื่องละ 3,000 บาท
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลกล่าวว่า จากคำให้การผู้ต้องหา ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่า มีการขโมยแค่ 6 เครื่อง เนื่องจากยังพบข้อมูลว่ายังมีอีกหลายแห่งในพื้นที่กรุงเทพมหานครถูกขโมยไป พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อให้รวดเร็วในการจับกุมคนร้ายและติดตามเครื่องที่ถูกลักไปกลับคืนมา เนื่องจากอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นเครื่องมือสำคัญที่ไว้ใช้ช่วยเหลือชีวิตของประชาชน เราจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด