หน้าแหกแตกยับชนิดหมอไม่รับเย็บ
ขึ้นเวที “ตั้งการ์ดสูง” ปัดป้องปฏิเสธไม่มีใครรีดเงินดาราสาวชาวไต้หวันที่เป็นข่าวกระฉ่อนโลกโซเชียล สุดท้ายเจอ “หมัดน็อก”เสยเข้าปลายคางล้มทั้งยืน
ความน่าเชื่อและศรัทธาหายวับไปในพริบตา
ปัญหาเล่น “นอกเกม” ระหว่างการตั้งด่านตรวจมีข้อครหา เรียกรับสินบน แลกกับการปล่อยตัวไม่ดำเนินคดีมีมานาน
โดยเฉพาะด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ “เหยื่ออันโอชะ” ของตำรวจหัวปิงปอง
ปัจจุบันลุกลามบานปลายจ้องค้นหา “บุหรี่ไฟฟ้า” เพราะอัตราโทษปรับสูง ส่วนใหญ่รับเคลียร์กัน “หน้าด่าน” เพื่อให้ทุกอย่างจบ
ถ้าไม่มีเงินติดกระเป๋าจะมี “บริการพิเศษ” พาไปกด “เอทีเอ็ม” ถึงตู้
นึกถึงยุค พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ขึ้นนั่งแม่ทัพปทุมวัน ประกาศ “เซ็ตซีโร่” ยกเลิกการตั้งด่านทั่วประเทศที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานความมั่นคง
เพื่อตัดข้อครหาตำรวจรีดเงิน
ชาวบ้านแทบยกมือท่วมหัว แต่ “เหล่าหัวปิงปอง” ยันบรรดา “สายตรวจคนขยัน” ร้องกระจองอแงขอความเห็นใจ
สุดท้าย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ยอมผ่อนคันเร่ง แต่มอบหมาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้นไปคิดแผนการตั้งด่านไม่ให้เกิดปัญหาการเรียกร้องเงินทอง
ได้ข้อสรุปนำสื่อมวลชนมาร่วมตรวจความอลังการ
ประกาศ ด่านตรวจแบบใหม่ แบ่งการตรวจ 3 รูปแบบ คือ ตรวจวินัยจราจร เช่น ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ไม่พกพาใบขับขี่ เป็นต้น ตรวจยาเสพติด และตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์
ระบุรายละเอียด
ด่านใหญ่มีขนาดพื้นที่ 20 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจ 12 ,9 และ 7 นาย ตามลำดับ แต่ละนายมีหน้าที่
เป็นหัวหน้าชุด 1 นาย ชุดคัดเลือกรถเพื่อตรวจสอบ 1 นายชุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ 3 นาย ชุดป้องกันการหลบหนี 4 นาย ชุดคุ้มกันเจ้าหน้าที่ 1 นาย ชุดควบคุมผู้ต้องหา 1 นาย
กำหนดก่อนถึงด่านจะมีป้ายแจ้งว่ามีจุดตรวจ 150 เมตร
ภายในด่านต้องมีกล้อง CCTV กล้องทำการบันทึกตลอดเวลาตั้งแต่ทางเข้าด่านตรวจถึงโต๊ะตรวจวัดแอลกอฮอล์ หรือโต๊ะเจรจา
สามารถตรวจสอบภาพจากกล้อง CCTV ย้อนหลังได้ 3 วัน
เปิดโอกาสประชาชนสามารถบันทึกภาพถ่าย/เคลื่อนไหว ขณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้
กรณีตรวจวัดแอลกอฮอล์ เจ้าหน้าที่จะเปลี่ยนหลอดเป่าต่อหน้าประชาชนทุกครั้ง
ป้ายไฟที่ด่านระบุชื่อและตำแหน่งหัวหน้าชุดที่เป็นระดับตำรวจสัญญาบัตร พร้อมเบอร์โทรศัพท์ และการตั้งด่านตรวจจะต้องได้รับอนุญาตจาก ผู้บังคับการ
ในที่สุดก็เข้า “อีหรอบเก่า” เห็นคนขับรถเมาเป็น “เหยื่อตีไก่”