ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก กระทั่งชุดลาดตระเวนออนไลน์ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ออกลานตระเวนออนไลน์ทราบถึงความเดือนร้อนจากประชาชนซึ่งถูกคนร้ายใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี “ นาย ออโต้ อะไหล่ยนต์ ” หลอกขายอะไหล่รถยนต์มือสอง เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม 2566 เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ตามพฤติการณ์น่าจะมีผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อคนร้ายรายนี้
แนวทางสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ประกอบการวิเคราะห์แผนประทุษกรรมการก่อเหตุของคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบตำรวจนครบาล เชื่อได้ว่า ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ คือ นายวัชระ หรือเป้ นาคสุข อายุ 35 ปี มีประวัติการกระทำความผิดในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามหมายจับศาลแขวงลพบุรี ฐานความผิดโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น โดยมิได้กระทำต่อประชาชนแต่เป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ฉ้อโกง
ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล มอบหมาย พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล นำกำลัง พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล กับพวกจับกุมตัวนายวัชระ หรือเป้ นาคสุข อายุ 35 ปี ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน เลขที่ 88/10 หมู่ 8 ตำบลปากแพรก อำเภอเมืองกาญจนบุรี ผู้ต้องหารายนี้ได้บริเวณใกล้ปากซอย 7 ภายในหมู่บ้านพฤกษากาญน์ 4 ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี
สอบสวนสารภาพเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลจับกุมเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคม 2565 ได้ประกันตัวออกมาก่อเหตุในลักษณะเดิมอีก ในครั้งนี้ ใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี “ นาย ออโต้ อะไหล่ยนต์ ” เข้าไปโพสต์หลอกขายอะไหล่รถยนต์มือสองในกลุ่มเฟซบุ๊กต่าง ๆ เน้นหลอกขายชุดไฟหน้า เก่า แท้ เนื่องจากมีความรู้ เพราะเคยขายชุดไฟหน้ารถจริงให้แก่ลูกค้า เวลาลูกค้าสอบถามจะสามารถโต้ตอบได้เนียนและชัดเจนจนลูกค้าหลงเชื่อ ถึงปัจจุบันก่อนเหตุซ้ำสำเร็จกว่า 40 ครั้ง มูลค่าความเสียหายกว่า 120,000 (หนึ่งแสนสองหมื่นบาท) เงินที่ได้นำมาใช้จ่ายในครอบครัว ทั้งนี้ตัวเองยังจบชั้นปริญญาตรี คณะครุศาสตร์ เคยเป็นครูอัตราจ้าง 3 ปี เมื่อช่วงปี 2559 – 2562 ก่อนจะลาออกมาขายอะไหล่รถยนต์มือสองทางออนไลน์ (ส่งของจริง) ใช้ชื่อเพจ “ วัชระ คิ้วล้อกระบะทุกรุ่น ” ทว่าเนื่องจากช่วงสถานการณ์โควิดทำให้ขายสินค้าได้น้อยลง ประสบปัญหาไม่มีเงินทุนซื้ออะไหล่มือสองมาขาย เริ่มไม่ส่งของให้ลูกค้าตามคำสั่งซื้อ แต่เห็นว่าได้กำไรดี จึงก่อเหตุเรื่อยมา
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลฝากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนภัยไปยังประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกง หรือสินค้าที่มีราคาถูกเกินกว่าราคาและคุณภาพที่ควรจะเป็น เนื่องจากมิจฉาชีพมักใช้ความโลภเห็นแก่ผลกำไรมาเป็นจุดล่อใจให้ประชาชนหลงกล ควรมีสติวิเคราะห์ถึงพฤติกรรม หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ เสนอขาย หรือชักชวนลงทุนในด้านต่างๆ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
