ยุติธรรมอำพราง

กลายเป็นมหากาพย์ดราม่ากระบวนการยุติธรรมที่ทำท่าจะบานปลาย

จากคดีจับ “แพะชนแกะ” ชำแหละเรื่องราวไม่ชอบมาพากลพนักงานสอบสวนยัดข้อหา ครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตครูจังหวัดสกลนครวัย 54 ปี ติดคุกในความคิดขับรถชนคนตายในคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายที่จังหวัดนครพนมเมื่อปี 2548

เป็นเวลา 3 ปี 2 เดือน

กระทั่งเจ้าตัวพ้นคุกออกมาว่าตกเป็นแพะรับบาป ไม่ใช่ผู้ต้องหาตัวจริง ทำกระบวนการยุติธรรมสั่นสะเทือน

ศาลจังหวัดนครพนมต้องรื้อคดีหาพยานหลักฐานขึ้นมาใหม่เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง

มี ดุษฎี อารยะวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ออกมารับหน้าช่วยเหลือสู่กระบวนการรื้อฟื้นคดี  เปิดประเด็นร้อนฉะตำรวจนครพนมจับแพะครูสาวใหญ่ติดคุก

ท่ามกลางกระแสสังคมที่โผล่เข้าข้างและเห็นใจ ครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร เพราะไม่เชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวน

“เรามีหน้าที่หยิบยื่นความยุติธรรมให้ไปถึงครูจอมทรัพย์ เราหาพยานหลักฐานใหม่ให้ครูได้ และเป็นผลให้ศาลมีคำสั่งให้มีการรื้อฟื้นคดีอาญา นำพยานหลักฐานทุกอย่างเอามาเบิกความในศาล ขณะนี้ยืนยันว่าครูจอมทรัพย์มีความพร้อมมากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ที่จะให้ปากคำกับศาล เพราะก่อนเราประชุมกันเรื่องทำงาน คณะทำงานและคนเล่นเฟซไทม์กับครูจอมทรัพย์และพยานสำคัญ แต่ว่าอะไรนั้นบอกไม่ได้ เรามีการโบกมือบายๆ กัน ทุกคนมีความสุขกัน ไม่ต้องห่วง เรามั่นใจในพยานหลักฐานที่เราได้มา” พ.ต.อ.ดุษฎีให้สัมภาษณ์ในครั้งนั้น

ขณะที่เจ้าตัวบอกว่า รับราชการเป็นครูอยู่ 31 ปี หลังออกจากเรือนจำยังไม่สามารถกลับเข้ารับราชการได้ แม้จะได้ยื่นเรื่องขอกลับเข้ารับราชการไว้กับสำนักงานเขตการศึกษาในพื้นที่ เนื่องจากต้องรอคำพิพากษาของศาลว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด

“สิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบกับชีวิตครอบครัวและบุคคลรอบข้าง โดยเฉพาะครอบครัวเพราะตนถือเป็นเสาหลัก ทำให้ลูกชายไม่ได้เรียนหนังสือไปหนึ่งคน ขณะที่คนรอบข้างที่เคยนับถือในฐานะครูก็น้อยลง ยืนยันจะเผชิญหน้ากับปัญหาทั้งหมด เพื่อให้เป็นตัวอย่างกับสังคมทั้งในฐานะครูและผู้ที่ถูกจำคุกโดยไม่ได้กระทำผิดต้องต่อสู้เพื่อความถูกต้อง”

ความรู้สึกจากระแสสังคมต่างเห็นใจครูแพะแบบไม่ลืมหูลืมตา

พยายาม โยนความผิดให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนมปฏิบัติหน้าที่มิชอบ จงใจสร้างพยานหลักฐานเท็จเพื่อยัดข้อหาครูจังหวัดสกลนครจนติดคุกฟรี

สุดท้ายศาลจังหวัดนครพนมอ่านคำพิพากษา “ยกฟ้อง”คดีที่นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครูจังหวัดสกลนคร ผู้ต้องรับโทษในคดีขับรถชนคนเสียชีวิต ขอรื้อฟื้นคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตเมื่อปี 2548 เนื่องจากไม่มีหลักฐานใหม่และพยานให้การมีพิรุธ

ให้เหตุผลว่า ไม่ได้นำตัว นายสับ วาปี ซึ่งเคยออกมายืนยันเป็นคนขับรถกระบะคันที่ก่อเหตุมาขึ้นเบิกความทั้งที่ศาลเห็นว่า นายสับ คือ เงื่อนไขที่ทำให้ศาลรับคำร้องรื้อฟื้นคดีในครั้งนี้ ขณะที่บุคคลอื่นๆ ที่อ้างว่าเห็นเหตุการณ์มีลักษณะไม่น่าเชื่อถือ

แถมพลิกกลับตาลปัตรออกหมายจับ นายสับ วาปี อายุ 61 ปี นายเลิศ วาปี อายุ 66 ปี นายบุญเทิง วาปี อายุ 63 ปี พี่ชายนายสับทั้งคู่ และนางจัน วาปี อายุ 59 ปี ภรรยานายสับ ผู้ต้องหาร่วมกันสร้างพยานเท็จรับสมอ้างเป็นผู้ต้องหาแทนครูสาวจังหวัดสกลนคร

ด้าน พ.ต.อ.ปราโมทย์ อุทากิจ ผู้กำกับการกลุ่มงานสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับ ครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ในข้อหานำสืบและแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อศาล

มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 14,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่อแววจะหมดอิสรภาพอีกครั้ง เพื่อชดใช้กรรมในสิ่งที่ตัวเองอุปโลกน์ขึ้น

RELATED ARTICLES