กลายเป็นดราม่าใน “รั้วจักรดาว” ที่เกิดจาก ประโยคไม่เอาอ่าว ของผู้ใหญ่บางคน
แต่ทุกสถาบันไม่เคยทำร้ายใคร
ความบอบช้ำที่กัดกร่อนภายในของหัวอกพ่อแม่ นตท.ภคพงศ์ หรือเมย ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 คงต้องให้เวลาเยียวยาความเจ็บปวด
ไม่ต่างจาก พ.ต.อ.ณธีพัฒน์ อังครพงศ์ธิติ ผู้กำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ที่ต้องสูญเสีย นตท.กรัณฑ์ อรชร นักเรียนเตรียมทหารชั้นปี 2 ไปเมื่อ 10 ก่อน
ความเศร้าโศกเสียใจยังไม่ยอมตกตะกอนนอนก้นสักวัน
การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัวเกิดขึ้นจากการ “ลุแก่อำนาจ”ในหมู่นักเรียนเตรียมทหารรุ่นพี่บางกลุ่มที่จัดการซ่อมรุ่นน้องมากเกินกว่าร่างกายของบางคนจะรับไหว
ผู้เป็นพ่อฟ้องโรงเรียนเตรียมทหารและกลุ่มรุ่นพี่ 6 คนสู่กระบวนการยุติธรรมชั้นศาลเกือบ 4 ปี ทว่าสุดท้ายต้องยอมแถลงปิดคดีไม่ติดใจเอาความทั้งแพ่งและอาญา เพราะสงสารภรรยาและลูกชายอีกคนต้องทนไปนั่งรับฟังการพิจารณา
ตอกย้ำเหตุการณ์ความสูญเสียในรั้วจักรดาว
เขาเข้าใจดีกว่า การซ่อมแบบปักหัวนั้น ทุกโรงเรียนทุกหลักสูตรการฝึกมีเหมือนกันหมด ไม่ใช่ประเด็นหลัก เพราะการซ่อมแบบหมู่ หรือซ่อมรวมจะบรรเทากว่าการซ่อมแบบเดียว เพราะคนเดียวต้องทำแบบร้อยเปอร์เซ็นต์
เวลานี้แค่อยากวิงวอนให้หาทางออกเพื่อยุติปัญหาไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นมาอีก
“ถามว่า ทุกวันนี้เจ็บหรือไม่ ยังเจ็บอยู่ พยายามทำบุญปล่อยวางไม่คิดอะไร” พันตำรวจเอกนักสืบภูธรภาคเหนือระบายความรู้สึก
“ระบบของโรงเรียนเตรียมทหารดีอยู่แล้ว แต่ตัวบุคคลบางกลุ่มต้องแก้ไข” พ่อที่สูญเสียลูกชายย้ำความคิด
เชื่อว่า นักเรียนเตรียมทหารทุกนายมีความภาคภูมิใจที่จบออกจากรั้วสถาบันเป็น ทหาร-ตำรวจคุณภาพรับใช้ประเทศชาติ
ทุกคนพร้อมตายในสนามรบ ไม่มีใครอยากพบจุดจบเป็นศพใน “สนามซ่อม” อยู่แล้ว