พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ สั่งการ พ.ต.อ.วีระพงษ์ หอมหวล ผู้กำกับการ 1 กองบังคับปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิทยา วรสุวรรณรักษ์ รองผู้กำกับการ 1 กองบังคับปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ พ.ต.ท.ปัญญาวุฒิ แสนทวีสุข รองผู้กำกับการ 1 กองบังคับปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ พ.ต.ท.ธีรโชติ นุ่นสพ สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ร.ต.อ.แทนคุณ พรมคุณ รองสารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์เลยที่ 12 ซอยช่างอากาศอุทิศ 13/1 แขวงและเขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร และอาคารพาณิชย์ 121/209 ,121/210 ซอยช่างอากาศอุทิศ 15 แขวงและเขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร หลังสืบทราบว่าสถานที่ดังกล่าวลักลอบเปิดใช้เป็นแหล่งแพ็กของและสถานที่กักเก็บสินค้าจำพวก โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต ลำโพง และเครื่องใช้ไฟฟ้าปลอมหรือเลียนแบบเครื่องหมายการค้าเตรียมส่งจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
จากการตรวจสอบพบอาคารพาณิชย์ทั้ง 3 แห่ง แม้จะตั้งอยู่คนละซอย แต่บริเวณด้านหลังตัวอาคารมีพื้นที่เชื่อมต่อถึงกัน ภายในถูกดัดแปลงเป็นสถานที่เก็บสินค้า มีกล่องลังบรรจุสินค้าวางตั้งเรียงรายเป็นจำนวนมาก เมื่อเปิดออกดูพบ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตยี่ห้อหัวเว่ย วีโว่ ซัมซุง แอปเปิ้ล ลำโพงพกพายี่ห้อมาแชล เครื่องดูดฝุ่น เครื่องเป่าผม และเครื่องใช้ไฟฟ้าปลอมหรือเลียนแบบเครื่องหมายการค้าอื่นๆเป็นจำนวนมากหลายพันรายการ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท มี นายฮวง ยี่คุน อายุ 56 ปี สัญชาติจีน แสดงตัวเป็นผู้ดูแลสถานที่ พร้อมกับพนักงานสัญชาติลาว 4 คน เจ้าหน้าที่ตรวจยึดสินค้าทั้งหมดไว้เป็นของกลางพร้อมกับคุมตัวนายฮวง ยี่คุน มาสอบปากคำรับการว่าจ้างจากนายทุนชาวจีนรายหนึ่งให้ดูแลสถานที่ดังกล่าวพร้อมกับคอยบริหารจัดการแพ็กสินค้า แล้วนำไปส่งต่อให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ได้ค่าจ้างเดือนละ 3 หมื่นบาท ยอมรับด้วยว่า สินค้าทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นสินค้าทำปลอมหรือเลียนแบบเครื่องหมายการค้า ถูกนำเข้ามาจากประเทศจีน
