การศึกษาในยุค 4.0 เป็นส่วนหนึ่งของไทยแลนด์ 4.0
เป็นยุคที่ประเทศไทยต้องมีนวัตกรรมเป็นของตัวเอง ในด้านการศึกษาเน้นให้มีการพัฒนาการศึกษาให้มีความทันสมัย มีการแลกเปลี่ยนความรู้กับนานาประเทศ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจเป็นสถาบันอุดมศึกษาเฉพาะทางด้านวิชาชีพตำรวจ มีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตบุคลากรในวิชาชีพตำรวจตามความต้องการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้การศึกษา ส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ทำการสอน การฝึกอบรมเน้นทักษะความเชี่ยวชาญด้านการบังคับใช้กฎหมายและวิชาชีพตำรวจ
มีลักษณะความเป็นผู้นำ ความอดทน เข้มแข็ง มีความรู้ความสามารถ เป็นคนดี มีคุณธรรม
พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจในฐานะครูใหญ่ และ พล.ต.ต.พงษ์พันธุ์ วรรณภักตร์ รองผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ในฐานะผู้ดูแลรับผิดชอบฝ่ายวิชาชีพตำรวจและกฎหมาย ได้สนองนโยบายการศึกษาในยุค 4.0 จัดแจงนำนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น คลิปวีดีโอเหตุการณ์ที่สำคัญมาใช้ประกอบการเรียนการสอน มีความร่วมมือทางวิชาการกับต่างประเทศเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการกับโรงเรียนนายร้อยตำรวจเกาหลีใต้ จีน เวียดนาม กัมพูชา พม่า
ในแต่ละปีจะมีการแลกเปลี่ยนนักเรียนนายร้อยตำรวจ จำนวน 15 นาย เพื่ออบรมหลักสูตรระยะสั้น 15 วัน ระหว่างกัน และจะขยายไปประเทศอื่นๆ ต่อไป
ขณะเดียวกันยังไม่ลืมหลักการเดิม คือ “ความรู้คู่คุณธรรม” ประกอบกันไปด้วย
พ.ต.ต.หญิง วาชิณี ยศปัญญา อาจารย์ (สบ 2) คณะตำรวจศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ในฐานะที่เป็นอาจารย์สอนวิชากฎหมายให้กับนักเรียนนายร้อยตำรวจ ได้สนองนโยบายดังกล่าวข้างต้น
เน้นให้นักเรียนนายร้อยตำรวจมีความรู้ด้านวิชาการควบคู่ไปกับ “คุณธรรม” ด้วยการนำวิชาสมาธิ “วิทิสาสมาธิ” เป็นการทำสมาธิที่สั้นที่สุด ง่ายที่สุด และได้ประโยชน์สูงสุด โดยก่อนที่จะทำการเรียนการสอนจะให้นักเรียนนายร้อยตำรวจ นั่งสมาธิเป็นเวลา 5 นาที เพื่อให้จิตเกิดความสงบ
เป็นสมาธิ ทำให้สามารถเข้าใจเนื้อหาที่เรียนได้ดี อันเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียน ดังที่ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร ลูกศิษย์ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต กล่าวไว้
“ประโยชน์ของสมาธิ คือ ทำให้สมองปัญญาดี ทำให้มีความรอบคอบ ทำให้ระงับความร้ายกาจ บรรเทาความเครียด มีความสุขพิเศษ ทำให้จิตใจอ่อนโยน กลับใจได้ เจริญวาสนาบารมี”
ดังนั้น เมื่อนักเรียนนายร้อยตำรวจได้ทำสมาธิก่อนเรียน นอกจากจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนแล้ว ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่อยู่ในรั้วโรงเรียน นักเรียนนายร้อยตำรวจจะได้รับการบ่มเพาะ อบรมจิตใจโดยการทำสมาธิ ปฏิบัติอยู่ใน ศีล สมาธิ ปัญญา อันเป็นเครื่องหมายถึงการเป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม
ส่งผลให้นักเรียนนายร้อยตำรวจซึ่งเป็น “ต้นน้ำแห่งความยุติธรรม” ได้รับการกลั่นกรองให้เป็นสายน้ำแห่งความบริสุทธิ์ ไปชโลมและพิทักษ์รับใช้ประชาชนให้ได้รับความผาสุก สงบ ร่มเย็น
สมกับเป็น “ตำรวจมืออาชีพเพื่อความผาสุกของประชาชน” ต่อไป