ผบช.ภ.5 นำทีมบูรณาการกวาดล้างอาชญากรรมช่วงเทศกาลสงกรานต์

 

ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5  นายมโนรมภ์ สินธพอาชากุล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ พ.ต.อ.กฤษดา พันธ์เกษม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่  พ.ต.อ.ฐานันดร วิทยาวุฑฒิกุล พิสูจน์หลักฐานจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยเกี่ยวข้อ ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติในช่วงระดมกวาดล้างอาชญากรรมในระหว่างวันที่ 27-31 มีนาคม 2566 หลังจากตำรวจภูธรภาค 5 บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่ว ระดมสรรพกำลังปิดล้อมตรวจค้นในหมู่บ้าน ชุมชนที่เป็นแหล่งพักและแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอใกล้เคียง ตรวจค้นสถานบริการ สถานประกอบการ และตรวจค้นเป้าหมายการสืบสวนขยายผลในพื้นที่ตำบลท่าผา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง เพื่อนำกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและยาเสพติดในทุกระดับมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้น

ผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมมีผลการปฏิบัติ ดังนี้

1. ความผิดอาชญากรรมทั่วไป จำนวน 172 ราย ผู้ต้องหา 166 คน ความผิดเกี่ยวกับการพนัน จำนวน 13 ราย ผู้ต้องหา 22 คน ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน 115 ราย ผู้ต้องหา 107 คน ความผิดเกี่ยวกับพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง จำนวน 17 ราย ผู้ต้องหา 17 คน ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน จำนวน 26 ราย ผู้ต้องหา 19 คน ความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ จำนวน 1 ราย ผู้ต้องหา 1 คน

2. จับกุมบุคคลตามหมายจับ จำนวน 150 หมาย ผู้ต้องหา 150 คน

3. อาชญากรรมทางเทคโนโลยี จำนวน 54 ราย ผู้ต้องหา 56 คน การหลอกลวงออนไลน์ทางด้านการเงิน จำนวน 16 ราย ผู้ต้องหา 16 คน การหลอกลวงจำหน่ายสินค้าออนไลน์และสินค้าผิดกฎหมาย จำนวน 3 ราย ผู้ต้องหา 5 คน การเผยแพร่ข่าวปลอมและคดีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จำนวน 16 ราย ผู้ต้องหา 16 คน การล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก หรือ สตรีทางอินเตอร์เน็ต และ ค้ามนุษย์ จำนวน 4 ผู้ต้องหา4 คน การพนันออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติ และอื่น ๆ จำนวน 15 ราย ผู้ต้องหา 15 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 376 ราย ผู้ต้องหา จำนวน 372 คน

ส่วนผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในห้วงระหว่างวันที่ 31 มีนาคม 2566  จับกุมผู้ต้องหา  8 ราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ  4 ราย จับกุมตามระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท   4 ราย ตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย  15 ราย ผู้ต้องหาหลบหนีเข้าเมือง  8 ราย ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ รับจำนำโดยผิดกฎหมาย   10 คัน ตรวจยึดอายัดทรัพย์ของผู้ต้องหา มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ยังเป็นประธานในการปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภท  สนธิกำลังร่วมกันของตำรวจภูธรภาค  กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ พิสูจน์หลักฐานจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่  ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองเชียงใหม่ และหน่วยเกี่ยวข้อง รวม 220 นาย บูรณาการร่วมกันเข้าตรวจค้นจุดต่างๆ สืบเนื่องมาจากมีการแพร่ระบาดของยา Happy Water และวัตถุออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทประเภท 2 โดยแพร่ระบาดในกลุ่ม นักเรียน นักศึกษา เยาวชน ในพื้นที่อย่างแพร่หลาย ถึงได้เปิดยุทธการปิดล้อมตรวจค้นแหล่งมั่วสุม แหล่งพักยา แหล่งบ่มเพาะอาชญากรรม รวมถึงแหล่งรับจำนำรถ

จับกุมคดีสำคัญและคดีที่น่าสนใจ  4 คดี คือ ตรวจค้นสถานบริการในพื้นที่ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ พบกลุ่มวัยรุ่นเปิดห้องพักมั่วสุมเสพยาเสพติด  2 ห้อง มีกลุ่มวัยรุ่น 13 ราย เป็นชาย 10 ราย หญิง 3 ราย นั่งดื่มสุราและพบถุงยาซองเล็กสีขาว บรรจุโคเคน จำนวน 3 ซอง เคตามีน จำนวน 2 ซอง พร้อมอุปกรณ์สำหรับการเสพ จากการตรวจปัสสาวะ พบมีผลเป็นบวก   10 ราย เป็น ชาย 9 ราย หญิง 1 ราย

อีกคดีจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลของศาลอาญาขยายผลตรวจยึดทรัพย์สิน มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ที่ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่  มีกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 บูรณาการร่วมกับหน่วยเกี่ยวข้องปิดล้อมพื้นที่ซอยศรีมงคล ถนนอัษฏาธร ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ พบบุคคลคนชนเผ่ามั่วสุมเตร็ดเตร่ รวมจำนวนประมาณ 100 ราย มีการจับกุมผู้กระทำความผิดจำนวน 13 ราย

คดีสุดท้ายสืบสวนขยายผลการจับกุมคดีจำหน่ายยาอันตรายและวัตถุออกฤทธิ์โดยผิดกฎหมายผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย พบวมีการโฆษณาจำหน่ายยาอันตราย (ทรามาดอล tramadol) เกินปริมาณที่กฎหมายกำหนดไว้ มีการจำหน่ายยา โคลนาซีแพม (Clonazepam) และอัลปราโซแลม (Alprazolam) เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 และประเภท 4 ห้ามมิให้มีการจำหน่ายเว้นแต่ได้รับอนุญาต ให้กับกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษาในเขตพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ จับกุุมผู้กระทำความผิดรวม 4 คน ตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วย ยาทรามาดอล (Tramadol) ยี่ห้อ เพนดอล ชนิดเม็ด ขนาด 50 มิลลิกรัม จำนวน 32 แผง รวม 320 เม็ด ยาเบ็นเซ็กซอล (Benhexol) ไม่มียี่ห้อ ชนิดเม็ด ขนาด 5 มิลลิกรัม บรรจุขวด จำนวน 454 เม็ด ยาเซ็ตทิริซีน (Cetirzine) ยี่ห้อฟาเทค ชนิดน้ำ ขนาด 100 มิลลิลิตร/ขวด จำนวน 11 ขวด ยาอัลปราโชแลม (Alprazolam) ชนิดเม็ด ขนาด 0.5 มก. จำนวน 2 เม็ด  ยาแผนปัจจุบัน โดยไม่ได้รับอนุญาต Tramadol, Promethazine, TRIHEXYPHENIDYL HYDROCHLORIDE, sildenafil, Fluoxetine, Diazepam, Sertraline, Trazodone, Clozapine, Clonazepam, Perphenazine, Risperidone ชนิดเม็ด จำนวน 52,526 เม็ด ชนิดขวด จำนวน 23 ขวด และ ชนิดซอง จำนวน 500 ซอง วัตถุออกฤทธิ์ต่อประสาท ประเภท 2 และประเภท 4 Clonazepam, Diazepam, Rohypnol, Midazolam, Alprazolam, Lorazepam, Methylphenidate ,Bromazepam, Zolpidem ชนิดเม็ด จำนวน 136,251 ชนิดขวด จำนวน 21 ขวด ยาเสพติด ประเภท 2 มอร์ฟีน (Morphine) จำนวน 600 เม็ด, โคดีอีน (Codeine) จำนวน 780 เม็ด รวมจำนวน 1,380 เม็ด วัตถุต้องสงสัยว่าจะเป็นยาเสพติด น้ำยาสีเหลือง, MST CONTINUS, KINAL CODEINE, Nimetazepam, CODEINE, CEDIPECT, (CODEINE), COCOF LINTCUS ชนิดเม็ด จำนวน 875 เม็ด, ชนิดขวด จำนวน 34 ขวด รวมทั้งสิ้น ชนิดเม็ด จำนวน 191,032 เม็ด ชนิดขวด จำนวน 78 ขวด ชนิดซอง จำนวน 500 ซอง รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 3 ล้านบาท และพบเงินหมุนเวียนในบัญชี ประมาณ 10 ล้านบาท

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมยาต้องห้ามจำหน่ายในครั้งนี้ ถือเป็นการจับ ยึดยาเสียสาวและยาต้องห้ามจำหน่ายมากสุดในรอบ 10 ปี เจ้านห้าที่จะยายผลไปยังแหล่งที่มาและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ได้แจ้งประชาสัมพันธ์ผู้ปกครอง ช่วยสอดส่อง ดูแลพฤติกรรมของบุตรหลาน เนื่องด้วยเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีวันหยุดยาว มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยเฉพาะทางสื่อโชเชียล โอกาสที่เยาวชนจะจับกลุ่มร่วมตัวกัน ซื้อหรือเสพยาเสพติด สิ่งของผิดกฎหมายในห้วงนี้ รวมถึงมีการเข้ามาของนักท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างประเทศเป็นที่ล่อตาแก่มิจฉาชีพเข้ามาก่ออาชญากรรมได้  หากพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่โทร 191 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ออกไปติดตามจับกุมและระงับเหตุ อนึ่ง หากบุตรหลานเป็นเยาวชน กระทำความผิด ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลอาจมีความผิดด้วย และสำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ ตำรวจภูธรภาค 5 มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือนี้

RELATED ARTICLES