ประกาศเจตนารมณ์ไม่ขอเข้ามอบตัวผ่านญาติสนิท
ส่งสัญญาณพร้อมปะทะหากเจอตำรวจเลือดสีเดียวล้อมจับกุม
อารมณ์ของ ด.ต.อรรถพร วิเชียร ผู้บังคับหมู่ป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุรราษฎร์ธานี เหมือนคนคลั่งสติแตกไปแล้ว
ยิงทิ้งแม้กระทั่ง นายอรรพล หรือ บาส วิเชียร อายุ 25 ปี ลูกชายที่เกิดกับเมียเก่าของตัวเอง
หลังจากพากันไปถล่มฆ่า นายธรรมรงค์ นิลนิยม อายุ 60 ปี พ่อตาที่เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ตำบลบางงอน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี บริเวณบ้านในสวนปาล์มน้ำมัน หมู่ 8 ตำบลกะเปา อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตายสยองพร้อมแม่ยายและญาติสนิทรวม 3 ศพ แต่ต้องแลกด้วยชีวิตของนายธรรมรัตน์ หรือ วัฒน์ วิเชียร พี่ชายที่ถูกอีกฝ่ายสาดกระสุนต่อสู้
ชนวนขัดแย้งบ้างก็ว่าเรื่องที่ดินสวนปาล์มของพ่อตา บ้างก็ว่าพ่อตากีดกันปิดกั้นความรัก
ยุยงปลุกปั่นให้ลูกสาวเลิกรา
ทำไปทำมาบานปลายกลายเป็นปมถล่มฆ่าอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต
กระนั้นก็ตาม เรื่องราวกับเหนือความคาดเดา ทันทีที่พบศพ น.ส.พนิดา หรือ ตั๊ก นิลนิยม เมียรักของ “ดาบทมิฬ” ถูก “ผัวหัวร้อน” ยิงกรอกปากทิ้งร่างเปลือยขึ้นอืดหมกลีลาวดีรีสอร์ต ริมถนนทางหลวงชนบท 4247 ตำบลท่าขนอน อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เธอเป็นศพแรกก่อนจะยกขบวนไปรัวถล่มฆ่าพ่อตาดับ 4 ศพรวมกับพี่ชายของตัวเอง
ก่อนขับรถหลบหนีแยกทางกับ นายมานพ ว่างงาน เพื่อนร่วมทีมแล้วเผ่นไปพร้อมลูกชายที่ลงเอยด้วยความตายของทายาท
ด.ต.อรรถพร วิเชียร ตาขวาง “สติแตก” ไปแล้ว ตามคำบอกเล่าของเพื่อนนักฆ่าที่จนมุมในเวลาต่อมา
เป็นการบ้านชิ้นใหญ่ของ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ลงพื้นที่ไปพร้อม พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี วางแผนระดมกำลัง “ล่าพลิกแผ่นดิน” หาตัว ด.ต.อรรถพร วิเชียร ตำรวจคลั่งที่พัวพันคดีสังหารรวม 6 ศพ
ระบุเป็นบุคคลอันตรายเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องระวังตัวเป็นพิเศษ
หากเกิดยิงต่อสู้ผู้บังคับบัญชาให้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายอย่างเด็ดขาดทันที
แถมตั้งค่าหัวสำหรับผู้แจ้งเบาะแสนำจับ 50,000 บาท
แต่ยังไม่ง่ายที่จะปิดเกมเนื่องจาก ด.ต.อรรถพร วิเชียร เป็นตำรวจย่อมรู้ทางหนีทีไล่ในการแกะรอยติดตามของทีมสืบสวนสอบสวนเป็นอย่างดี
ถ้าไม่จนกระดานไม่มีทางจนมุม