พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 สั่งการให้ พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 รักษาราชการผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 นำกำลัง พ.ต.ท.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 พ.ต.ต.เจตน์ ยุทธโยธิน สารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 พ.ต.ต.สวรรค์ ราชพิทักษ์สารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 กับพวกจับกุมนายเอ็ดดี้ คาวาวา บันดา อายุ 40 ปี สัญชาติแซมเบีย บริเวณริมถนนใกล้ ปั๊มน้ำมันปตท. รามอินทรา กิโลเมตรที่ 11 แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากนโยบายของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการตรวจคนเมือง เน้นย้ำให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กวาดล้างจับกุมบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด(Overstay) เพื่อป้องปรามอาชญากรรมที่บุคคลต่างด้าอาจแฝงตัวเข้ามาในลักษณะนักท่องเที่ยวและเข้ามากระทำความผิดในประเทศ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณถนนนวมินทร์ กระทั่งพบชาวต่างชาติท่าทางมีพิรุธต้องสงสัย รีบขึ้นรถยนต์ขับออกไปจากที่พักได้เฝ้าติดตาม กระทั่งแวะจอดในปั๊มน้ำมันใกล้กับห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอแลนด์ ตำรวจเข้าแสดงตัวขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง แต่ไม่ทันที่คนต่างด้าวจะฟังจบได้วิ่งหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไป ก่อนได้มีการวิ่งติดตามจับกุมกันไปกว่า200 เมตร กระทั่งคนต่างด้าวหมดแรงฉุดกระชากและช่วยกันจับกดพื้นจนและสามารถจับตัวผู้ต้องหาได้
จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางพบว่า ชายคนดังกล่าวได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2557 โดยวีซ่านักท่องเที่ยว ครบกำหนดอนุญาตเมื่อ 17 ธันวาคม 2558 ปัจจุบันอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนด (Overstay) จำนวน 2,679 วัน หรือประมาณ 7 ปี 3 เดือน ระบุก่อนหน้านี้ได้มาอยู่ที่ประเทศไทย และมาพบรักหญิงชาวไทยอยู่กินจนมีลูกด้วยกัน 4 คน ภรรยาขายส่งสินค้าพวกเครื่องสำอางกลับไปยังประเทศแซมเบีย ไนจีเรีย ส่วนตนช่วยหาลูกค้าและแพ็กของ
