“โดนอีกแล้วหรอ” คำอุทานจาก น.ส.ชัญญานุช ใคร่ครวญ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับกว่า 10 หมายจับ ในความผิดเรื่อง “เปิดบัญชีม้า” หลังถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาลปิดล้อมจับกุมตัวกลางถนนบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ทั้งที่เคยถูกจับมาแล้วกว่า “2 ครั้ง” อยู่ระหว่างการต่อสู้คดี เรียกได้ว่ าหมายจับออกแล้วออกอีก ถูกจับแล้วจับอีกเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด ล่าสุดถึงกับ “ลมจับ” เพราะทราบจากเจ้าหน้าที่ว่าถูกออกหมายจับอีก “10 หมายจับ” ถึงกับสารภาพต่อเจ้าหน้าที่ว่า “เปิด 10 บัญชี ได้บัญชีละ 500 บาท แต่โดนขนาดนี้ไม่คุ้มกับเงิน 5,000 บาทสักนิดเดียว”
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ 5 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมาย พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.พิทักษ์ ศรีกะแจะ สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล
ร่วมกันจับกุม น.ส.ชัญญานุช ใคร่ครวญ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107/7 หมู่ที่ 6 ตำบลบางเตย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับกว่า 10 หมายจับ ได้กลางถนน” บริเวณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จากพฤติการณ์กล่าสืบเนื่องจากชุดลาดตระเวนออนไลน์ของเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” พบผู้เสียหายหลายรายได้แจ้งเบาะแสคนร้ายหลอกลวงก่อนนำไปสู่การโอนเงินให้คนร้ายที่บัญชีคนร้าย “มีหลายรูปแบบ” เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ , หลอกเหยื่อให้กู้เงิน , หลอกขายของออนไลน์ , หลอกให้ลงทุน , หลอกให้สมัครงานออนไลน์
จากการตรวจสอบนั้นพบบัญชีที่ถูกนำไปใช้หลอกลวงกว่า 10 บัญชี และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับไว้เป็นจำนวนกว่า 10 หมายจับ คนร้ายรายนี้เป็นพวกรับจ้าง “เปิดบัญชีม้า” พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนคตรบาล สั่งการให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวนครบาลนำกำลังเจ้าหน้าที่ไปติดตามจับกุม สอบสวนสารภาพว่า ประกอบอาชีพเป็นพนักงานคัดแยกสินค้าในบริษัทขนส่งเอกชน มีเพื่อนชื่อ น.ส.ธิดารัตน์ มาชักชวนไปเปิดบัญชีให้ แลกค่าจ้างบัญชีละ 500 บาท เดินไปเปิดบัญชีให้เป็นจำนวน 10 บัญชี ได้เงินค่าจ้างมาเป็นจำนวน 5,000 บาท ต่อมาถูกตำรวจจับกุมตัวไป 2 รอบ และได้ทราบว่ามีหมายจับอื่นๆกำลังทยอยออกมาเพิ่มจนในปัจจุบัันที่ถูกจับกุมทราบว่ามีอีกจำนวน 10 หมายจับ ยอมรับว่ าในเวลานี้ร่างพรุนหมดแล้ว และนี่ไม่รู้ต้องถูกออกหมายจับเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ไม่คุ้มกับเงิน 5,000 บาทสักนิดเดียว ขอร้องเจ้าหน้าที่ช่วยออกหมายเรียกหน่อยได้หรือไม่
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ย้ำเตือนประชาชนอย่าผู้รับจ้างเปิดบัญชีม้า เพราะมีโทษทั้งจำ ทั้งปรับ ผลประโยชน์เล็กๆน้อยๆที่ได้รับ สร้างความเสียหายมากมายให้ประชาชนในสังคม
