สืบนครบาลตามปิดแฟ้มตุ๋นขายสินค้าออนไลน์ติดบัญชีดำยาวเป็นหางว่าว

 

 

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก มีชุดลาดตระเวนออนไลน์กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลและชุด ปฏิบัติการ 5 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากผ่านเพจ IDMB ให้ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัว “ป๊อบ บึงสามพัน” มิจฉาชีพระดับตำนานโกงหลอกขายสินค้าออนไลน์ทุกวงการ ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ  คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก   กล้องถ่ายรูป  เครื่องโปรเจกเตอร์  ฟิล์มถ่ายรูป หนังสือนิยายหายาก เสื้อวงดนตรีต่างๆ  ก่อเหตุต่อเนื่องเรื่อยมาตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบันยังคงลอยนว หลบหนีและก่อเหตุอย่างต่อเนื่องเสนอขายสินค้าทิพย์กว่า 200 กลุ่ม มูลค่าความเสียหายรวม 3 ล้านบาท

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนนสอบสวนตำรวจนครบาล มอบหมาย พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย  รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พร้อมกำลังร่วมกันสืบสวนติดตาม

นำไปสู่การจับกุมนายนพสร หรือป๊อบ จินดารักษ์หรือ อายุ 31 ปี ที่อยู่เลขที่ 72 หมู่ 4 ตำบลบึงสามพัน อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ได้ที่บริเวณหน้าร้าน บี.อี.เกษตรฟาร์ม หมู่ 8 ถนนนิคมสร้างตนเอง ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองลพบุรี รับสารภาพว่า เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เดิมทีทำงานเป็นพนักงานโรงแรมในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ จนช่วงอายุประมาณ 25 ปี ย้ายมาอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี หันมาประกอบอาชีพขายของตามตลาดนัดย่านปากเกร็ด แต่เนื่องจากประสบปัญหาขายของขาดทุนจนเงินลงทุนหมด  เริ่มคิดนำโทรศัพท์มือถือที่ตนมีไปลองโพสต์ขายผ่านช่องทางออนไลน์ ใช้ชื่อบัญชีเฟซบุ๊กว่า “ นพสร จินดารักษ์ ” ขณะนั้นมีผู้สนใจติดต่อซื้อมาหลายคนจึงทักขายให้กับทุกคนที่สนใจโใช้บัญชีธนาคารส่วนตัวในการรับเงิน แต่ไม่ส่งสินค้าให้ เห็นว่าได้เงินมากพอสมควร

เจ้าตัวรับอีกว่า ขายสินค้าที่หลากหลายเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก กล้องถ่ายรูป เครื่องโปรเจกเตอร์ ฟิล์มถ่ายรูป หนังสือนิยายหายาก เสื้อวงดนตรีต่างๆ  หาภาพถ่ายสินค้าต่างๆ มาจากอินเตอร์เน็ต ไม่มีสินค้าจริง เพื่อมาโพสต์ขายผ่านทาง Marketplace ของเฟซบุ๊กสารพัดกลุ่ม กระทั่งมีชื่อติดอยู่ในแบล็กลิสต์บัญชีคนโกง บุคคลเฝ้าระวัง บุคคลอันตรายในการหลอกซื้อขายสินค้าทางโลกออนไลน์จำนวนมาก มีผู้เสียหายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อประมาณเดือนละ 30 ราย มูลค่าความเสียหายแต่ละรายประมาณ 500 ถึง 3,000 บาท รวมในช่วง 6 ปี ที่เริ่มก่อเหตุมากกว่า 3 ล้านบาท เงินที่ได้มาส่วนใหญ่นำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เที่ยวเตร่  ยาเสพติด เลี้ยงแมว

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลกล่าวว่า คดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมากจับเป็นกลุ่มขอความช่วยเหลือผ่านเพจสืบสวนนครบาล ถือเป็นคนร้ายโคตรโกง โกงทุกอย่างร่วม 200 กลุ่ม สร้างความเดือดร้อน เบื่อหน่ายกับคนหากินสุจริต ขอแจ้งเตือนภัยไปยังประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพที่มีอยู่มากมาย หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์จะเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

RELATED ARTICLES