เมื่อช่วงปลายปี 2564 เกิดขบวนการ “สาวข้ามเพศ” หลอกนัดเจอเหล่าพ่อบ้านขี้เหงาทางโลกทวิตเตอร์ ก่อนแชตสนทนา “ใช้มารยา” ขอวัดขนาด “นกเขา” เมื่อเหยื่อหลงเชื่อส่งภาพไปให้ กลับโดนข่มขู่รีดเอาเงิน หากไม่ให้จะส่งภาพให้ “ภรรยา” หรือโพสต์ประจานในโลกโซเชียล มีเหยื่อโดนไปกว่า 40,000 บาท ตรวจสอบพบเหยื่ออีก “เพียบ” บางรายเคยคิดฆ่าตัวตาย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ 5 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำราวจแห่งชาติ นำกำลังออกติดตามหนึ่งในขบวนการที่ถูกออกหมายจับ คือ “แพรรี่ ดาวยั่ว 18+” ในแอปพลิเคชัน M Live มีผู้ติดตามกว่า 3 แสนคน เจ้าตัวรับเพียงว่า ปัจจุบันทำงานไลฟ์อย่างเดียวมีรายได้เดือนละแสนกว่าบาท
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล หัวหน้่าชุดปฏิบัติการ 5 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล นำกำลังติดตามจับกุมตัว นายเอกพล หรือแพรรี่ สายจันทร์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 3 ตำบลห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ด้ที่ห้องพัก บริเวณถนนเพชรเกษม-ท่าพระ แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์กล่าวคือ ช่วงปี .2564 มีขบวนการกะเทยแสบรายหนึ่งออกอาละวาดหลอกลวงในโลกโซเชียล แผนประทุษกรรมจะแฝงตัวอยู่ในโลก “Twitter” โพสต์รูปภาพส่วนตัวลักษณะวาบหวิวผ่านทวิตเตอร์หาเหยื่อที่เป็นชายขี้เหงาเพื่อจะ “นัดเจอ” เมื่อมีผู้ชายตกเป็นเหยื่อแล้วจะทำทีแชตสนทนาใช้มารยาต่างๆนานา ขอให้ผู้เสียหายส่งรูปภาพ “ขนาด” อวัยวะเพศมาให้ดูก่อนประกอบการตัดสินใจกระทั่งพลาดหลงกลส่งรูปให้ ผู้ต้องหากลับข่มขู่ว่า หากไม่อยากถูกนำรูปภาพไปโพสต์ประจานในโซเชียล หรือส่งให้ “ภรรยา” ดังนั้นต้องโอนเงินให้ ตอนแรกๆ ผู้เสียหายกลัวยอมโอนเงินให้ครั้งละ 500-1,000 บาท ผู้ต้องหายังข่มขู่เรื่อยมา บางครั้งให้โอนเงิน 4-5 ครั้งต่อวัน ทั้งหมดโอนไปกว่า 40,000 บาท จนทนไม่ไหวเข้าแจ้งความดำเนินคดี พ่อบ้านผู้เสียหายบางรายถึงขั้น “อยากฆ่าตัวตาย” พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ได้สั่งการนำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมได้ขณะที่กำลังไลฟ์หลอกเหยื่อรายอื่นในห้องพัก
สอบสวนให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ระบุเพียงว่า จบการศึกษาชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ เป็นสาวประเภทสอง ยังไม่ได้ผ่าตัดแปลงเพศ ปัจจุบันหาเลี้ยงชีพด้วยการไลฟ์ 18+ ผ่านแอปพลิเคชัน M Live ทั่วไปจะมีคนดูประมาณ 10,000 คน ผู้ติดตามกว่า 300,000 คน ส่วนเรื่องทางคดีเกิดนานแล้ว ยืนยันไม่เกี่ยวข้อง ความผิดทั้งหมดเกิดจาก เพื่อนที่ถูกจับกุมไปนานแล้ว
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลกล่าวว่า ตำรวจเชื่อว่า ยังมีกลุ่มมิจฉาชีพอีกหลายรายที่มีพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกันกำลังหาเหยื่อในกลุ่มพ่อบ้าน หรือหนุ่มอารมณ์เปลี่ยวตกหลุมพรางจนกลายเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพเหล่านี้ นอกจากจะสูญเงินเป็นจำนวนมากแล้วต้องแลกมาด้วยชื่อเสียงอีกด้วย ที่สำคัญคือ บาดแผลทางจิตใจที่ยากต่อการเยียวยา บางรายไม่กล้าจะเข้าแจ้งความ บางรายถึงขั้นคิดจะจบชีวิตตัวเองเพื่อหนีกับอดีตที่ผิดพลาด ด้วยจุดอ่อนเหล่านี้กลุ่มมิจฉาชีพจึงใช้เป็นช่องทางรีดเอาทรัพย์ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ขอฝากเตือนทุกท่านที่ต้องการหาเพื่อนหรือพูดคุยกับบุคคลอื่นๆ ให้พึงระลึกไว้ก่อนว่า “รู้หน้า ไม่รู้ใจ” และขอแจ้งประชาสัมพันธ์ไปยังเหล่าพ่อบ้านหรือบุคคลใดที่เคยตกเป็นเหยื่อสามารถติดต่อให้เบาะแสทาง เฟซบุ๊กเพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำ แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน ถ้าเราทำได้ เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
