สืบนครบาลพบแผนประทุษกรรมของผู้ต้องหา “นักข่มขืนต่อเนื่อง” ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล มอบหมายให้แอดมินเพจเฟซบุ๊ก สืบนครบาล IDMB แจ้งเตือนภัยทันที
พฤติกรรมของทรชนคนอันตรายรายนี้ตระเวนก่อเหตุข่มขืนและชิงทรัพย์ ด้วยการหาเหยื่อผ่านทางแอปพลิเคชันหาคู่
ใช้ชื่อในแอปพลิเคชันว่า “ตั้ม ชลบุรี”
เมื่อคนร้ายนัดเจอกับเหยื่อจะทำทีเป็นผู้ชายแสนดี อาสาพาไปส่ง เมื่อสบโอกาสจะพาเหยื่อออกนอกเส้นทางและพาไปข่มขืน
มีผู้เสียหายรายหนึ่งถูกขยี้กาม “ริมทุ่งนา” แล้วปล่อยล่อนจ้อนทิ้งข้างทาง บางรายถูกชิงทรัพย์ด้วย เช่น สร้อยคอทองคำ โทรศัพท์มือถือ หรือเงินสด เกิดขึ้นในท้องที่ สถานีตำรวจนครบาลจรเข้น้อย
จากการสืบสวนทราบชื่อภายหลัง นายวัฒนะ ศรีคะเนย์ และพบว่า ยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ถูกคนร้ายรายนี้กระทำ
ทว่าไม่รู้ชื่อคนร้าย
ทีมงานนักสืบเมืองหลวงถือโอกาสขอประชาสัมพันธ์ตำหนิรูปพรรณให้ประชาชนทราบ หากใครเคยตกเป็นเหยื่อของ “ตั้ม ชลบุรี” สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่เพจ “สืบนครบาล IDMB”
อย่าปล่อยให้คนประเภทนี้ออกมาเพ่นพ่านอยู่ในสังคม
แม้ปัจจุบันผู้ต้องหารายนี้ถูกดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี
ประวัติของคนร้ายก่อเหตุซ้ำซากไม่เข็ดหลาบ
เคยถูกจับข้อหา ข่มขืน พื้นที่ สถานีตำรวจภูธรพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ก่อนโดนข้อหา ลักทรัพย์ พื้นที่ เดิม รวมทั้งก่อเหตุข่มขืนซ้ำในท้องที่พนัสนิคม เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2554
วันที่ 3 มิถุนายน 2560 ถูกดำเนินคดี ข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 พื้นที่ สถานีตำรวจภูธรศรีราชา จังหวัดชลบุรี ถัดมา 13 กรกฎาคม 2560 ถูกดำเนินคดี ข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1อีกรอบ พื้นที่ สถานีตำรวจภูธรคลองห้า จังหวัดปทุมธานี กระทั่งวันที่ 27 เมษายน 2566 ข่มขืนและชิงทรัพย์ท้องที่ สถานีตำรวจนครบาลจรเข้น้อย
ล่าสุดวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ข่มขืน พื้นที่ สถานีตำรวจภูธรเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี
มีเหยื่อสาวรายหนึ่งในท้องที่สถานีตำรวจนครบาลจระเข้น้อยให้ข้อมูลว่า รู้จักคนร้ายผ่านทางแอปพลิเคชัน “Omi” ในชื่อ “ตั้ม ชลบุรี” ทำโปรไฟล์เป็นหนุ่มหล่อมาดเข้ม ก่อนแชตสนทนากับคนร้ายกว่า 3 วัน
นัดหมายพบกันบริเวณปากซอยลาดกระบัง 52 พาไปเดินเที่ยวตลาดนัดสุวรรณภูมิ ระหว่างการเดินตลาดคนร้ายทำทีเป็น “ผู้ชายแสนดี” ซื้อ ไก่ใต้น้ำ ปลาหมึกย่าง และลอตเตอรี่ ให้กับฝ่ายหญิง เกี้ยวพาราสี พูดจาไพเราะเสนาะหู ทำให้ผู้เสียหายเคลิบเคลิ้มไปตามอารมณ์
คนร้ายอาสาขี่รถจักรยานยนต์พาไปส่งที่ห้องพักของหญิงผู้เสียหาย แต่สบโอกาสแล้วพาออกนอกเส้นทางไปตามทางเปลี่ยว อ้างว่าเป็นทางลัด สองข้างทางเป็นทุ่งน่ามืดสนิท
เหยื่อสาวเห็นท่าไม่ดีพยายามขัดขืนและลงจากรถจักรยานยนต์ ทันใดนั้นคนร้ายจับกดและลงมือข่มขืนผู้เสียหายริมทุ่งนาบริเวณจุดเกิดเหตุ ด้วยพละกำลังที่น้อยกว่าและเกรงว่า “ถูกฆ่า” ตกต้องอยู่ในสภาวะจำยอม
คนร้ายเสร็จสมอารมณ์หมายยังกระชากสร้อยคอทองคำ 50 สตางค์ มูลค่า 17,000 บาท ของผู้เสียหายติดมือไปพร้อมโทรศัพท์มือถือ
ทิ้งเหยื่อสภาพ “ล่อนจ้อน” เดินโซซัดโซเซไปตามถนนที่มืดมิดไร้แสงไฟกว่า 20 นาทีถึงเจอพลเมืองดีขับรถผ่านมาช่วยเหลือ
ฝ่ายสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลจรเข้น้อย ประสานข้อมูล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ในฐานะชุดปฏิบัติการที่ 5 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แกะรอยจนพิสูจน์ทราบตัวคนร้าย
แต่มันยังย่ามใจไปก่อเหตุกับหญิงสาวอีกรายในพื้นที่เกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี
หากเป็นสมัยก่อนคงได้ไปนอนอ่านหนังสือพิมพ์ข้างทาง