ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.ชัชชัย วงศ์สุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร พ.ต.อ.อรรถพร สุริยเลิศ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ปฏิบัติราชการกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 มอบหมาย พ.ต.อ.สมคะเน ไตรยสุทธิ์ ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พ.ต.อ.สุเมธ พิทักษ์เกียรติยศ ผู้กำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พ.ต.ท.จีระวัฒน์ โพธินา รองผู้กำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พ.ต.ท.เดชชาติ แก้วมูลมณี รองผู้กำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พ.ต.ท.ธนภณ เกษมแสง รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 สนธิกำลัง พ.ต.อ.วิจิตร บุญวรรณ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร และนายภิญโญ โฆสิต ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 4 ออกระดมกวาดล้างตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
รายแรกสามารถจับกุมขบวนการลักลอบขนยาเสพติดเข้าสู่ประเทศรายใหญ่ของกลางยาบ้า กว่า 4 ล้านเม็ด ผู้ต้องหาชาวอำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี บริเวณริมถนนมิตรภาพ หน้าโรงพยาบาลพล อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น หลังจากสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ในการลักลอบขนยาเสพติดจากพื้นที่จังหวัดชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เข้าสู่จังหวัดตอนใน ตามคำสั่งของนายทุนที่เป็นผู้ว่าจ้าง ใช้รถยนต์เป็ยานพาหนะในการขนยาเสพติดมาตามถนนมิตรภาพในการลำเลียงเข้ามาพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ชุดจับกุมวางแผนสกัดกั้นจับกุมจนพบรถยนต์ดังกล่าววิ่งมาตามถนนมิตรภาพมุ่งหน้าจังหวัดนครราชสีมา ก่อนแสดงตัวเข้าค้นพบยาบ้า 10 กระสอบอยู่เบาะด้านหลังของรถรวมจำนวน 4 ล้านกว่าเม็ด
อีกรายยึดทรัพย์ขบวนการฟอกเงินยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่อีสานเหนือมูลค่ากว่าร้อยล้านบาท ตามที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 สืบสวนติดตามพฤติการณ์ของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ก่อเหตุยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจเครือข่าย “เปา กระนวน” และ เครือข่าย “นุ กระนวน” ตลอดจนสืบสวนติดตามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่รับยาเสพติดจากเครือข่ายดังกล่าวมาจำหน่ายและสืบสวนทราบว่ามีการเปิดบริษัทบังหน้าเพื่อฟอกเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดและมีการครอบครองทรัพย์สินจำนวนมาก จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับเครือข่ายดังกล่าวในข้อหาสมคบฟอกเงินจากการค้ายาเสพติดที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 จังงหวัดมุกดาหารเข้าตรวจค้น
บ้านพัก และ บริษัท 7 จุด ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร 2 จุด จังหวัดสกลนคร 2 จุด และกรุงเทพมหานคร 3 จุด พบทรัพย์สิน จำนวน 279 รายการ เช่น เงินสด 2,842,810 บาท ตู้เซฟ 3 ตู้ โฉนดที่ดิน จำนวน 10 ฉบับ รถยนต์ 5 คัน รถจักรยานยนต์ 6 คัน ทองคำ รวมจำนวน 41 รายการ บัญชีเงินฝาก 50 เล่ม กรมธรรม์ประกันชีวิต 6 กรมธรรม์ ทรัพย์สินอื่นๆ เช่น นาฬิกาหรู กระเป๋าแบรนด์เนม พระเครื่อง อีกหลายรายการ