สืบนครบาลรวบผู้ต้องหาหลอกลงทุนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

 

 

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก มีชุดลาดตระเวนออนไลน์ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล รับแจ้งเบาะแสคนร้ายใช้บ้านออมเงินซุปตาร์เฮเคียว ลักษณะคล้ายกับการเล่นแชร์ทั่วไป  สร้างความสัมพันธ์กับคนในบ้านออมเงิน ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Autcharaphan Kanthawong” แอดไปหาผู้ที่ร่วมลงทุนในบ้านออมเงินซุปตาร์เฮเคียว ชักชวนผ่านโปรแกรมแชต Messenger ให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแลกผลตอบแทนสูงก่อนหลบหนีไป มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล อำนายการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล  พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล  พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล มอบหมาย  พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผู้กำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล  พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง รองผู้กำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รองผู้กำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ต.สัญญลักษ์ สังขะภักดี สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พร้อมกำลังออกติดตาม

ก่อนร่วมกันจับกุมตัวนายสมชาย กันทะวงศ์ อายุ 60 ปี ที่อยู่ 133 หมู่ 1 ตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 133 หมู่ 1 ตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ตามพฤติการณ์เมื่อประมาณปี 2563 ผู้ต้องหาและลูกสาวได้ร่วมกันเปิดกลุ่มไลน์ “บ้านออมเงินซุปตาร์เฮเคียว”  ลักษณะคล้ายกับการเล่นแชร์ทั่วไป ต่อมาสร้างความสัมพันธ์กับคนในบ้านออมเงินในเฟซบุ๊กชื่อ “Autcharaphan Kanthawong” แอดไปหาผู้ที่ร่วมลงทุนในบ้านออมเงินซุปตาร์เฮเคียวชักชวนผู้เสียหายร่วมลงทุนเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแลกผลตอบแทนสูง ผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมลงทุนกับผู้ต้องหาสองพ่อลูกโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารแต่ไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ อ้างกับกลุ่มผู้เสียหายว่า “เงินถูกธนาคารตรวจสอบ” ต้องเข้าไปชี้แจงที่ธนาคาร ถ้าสามารถนำเงินออกมาได้แล้ว จะนำมาให้กับกลุ่มผู้เสียหาย สุดท้าย รอมา 2 ปี ผู้เสียหายก็ไม่ได้รับเงินคืนและไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆ กลุ่มผู้เสียหายมีทั้งคนในประเทศไทย และคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ รวมความเสียหายทั้งหมดกว่า 20 ล้านบาท

จากการสอบสวนผู้ต้องหาโยนความผิดให้ลูกสาวที่ได้ไปทำงานอยู่ต่างประเทศจะเริ่มทำธุรกิจ เป็นการประมูลสินค้า เมื่อได้มาแล้วก็จะนำออกมาขายได้กำไรเยอะกว่าการค้าขายทั่วไป แต่ต้องหาคนมาร่วมลงทุนก่อน  ขอใช้บัญชีของพ่อในการรับโอนเงินคนที่จะร่วมลงทุนและอยู่ในประเทศไทย เมื่อมีเงินโอนเข้ามาแล้ว ลูกสาวจะบอกอีกครั้งว่าให้โอนเงินไปที่ไหนต่อ ต่อมา ลูกสาวบอกว่าเงินที่จะนำมาให้ผู้เสียหาย ถูกสำนักงานป้องกันปราบปรามการฟอกเงินตรวจสอบไม่สามารถนำเงินออกมาแจกจ่ายได้ให้รอก่อน และเมื่อทราบว่าถูกดำเนินคดีได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ กับภรรยา ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร และไม่ออกจากบ้าน เนื่องจากกลัวว่าจะถูกจับกุม
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลฝากแจ้งเตือนไปยังผู้กระทำผิ ว่าท่านไม่สามารถหลบรอดกฎหมาย คนร้ายรายนี้หลบหนีโดยไม่ออกจากบ้านมาโดยตลอด ยังถูกจับกุม และประชาชนหากมีเบาะแสการกระทำความผิด โปรดแจ้งมายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

RELATED ARTICLES