มากกว่าเครื่องแบบ

 

เปิดตัวเครื่องแบบใหม่ สืบนครบาล IDMB สร้างความหวังและแรงบันดาลใจ ผ่านแคมเปญ​ “เป็นมากกว่าเครื่องแบบ”

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล แม่ทัพของหน่วยมองว่า การได้สวมใส่เครื่องแบบของสืบนครบาลสักครั้งในชีวิต ถือเป็นเกียรติประวัติสูงสุดของการรับราชการ

“เพราะมันเป็นมากกว่าเครื่องแบบ” เจ้าตัวย้ำ

เขาย้อนอดีตว่า กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ก่อตั้งขึ้นในปี  2548 หากแต่ประวัติศาสตร์ของนักสืบเมืองหลวง ยาวนานมาตั้งแต่ยุคสืบเหนือ สืบใต้ สืบธนบุรี มี “ตำนานนักสืบ” มากมายต่างเคยทำงาน ณ ที่แห่งนี้

ปราบเหล่าโจรร้ายในเมืองหลวง

จวบจนปัจจุบัน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ได้จัดทำเพจเฟซบุ๊ก สืบนครบาล IDMB  ที่มีผู้ติดตามจำนวนไม่น้อยส่งกำลังใจขอบคุณมาให้หน่วยงานเล็ก ๆแห่งนี้อย่างล้นหลาม

พวกเขาได้อ่านทุกคอมเมนต์ ทุกความเห็นที่มีให้

พร้อมสัญญาว่า เราจะทำหน่วยงานแห่งนี้ ให้เป็น “หน่วยงานของประชาชนทุกคน”  และเราจะก้าวไปยังอนาคตพร้อมกับประชาชน ด้วยความหวังและแรงบันดาลใจอย่างสุดความสามารถ

ตามความเชื่อมั่นที่ว่า “ประชาชน คือ ตำรวจ ตำรวจคือ ประชาชน

ส่วนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น นายพลนักสืบหนุ่มศึกษาในเรื่องของอาชญาวิทยาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา พบว่า การสร้างความมั่นใจของประชาชนที่มีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะการทำงานของตำรวจเกือบทุกสายงาน ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับประชาชนโดยตรงตลอด

“หากประชาชนไม่ไว้วางใจตำรวจแล้ว ก็จะส่งผลให้ประชาชนจะไม่ให้ความช่วยเหลือในงานต่างๆของตำรวจ”

เขายอมรับว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ความมั่นใจของประชาชนที่มีตำรวจทั่วโลกตกลงอย่างเด่นชัด ทั้งจากเหตุการณ์การเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ในสหรัฐอเมริกา หรือเหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้ ทีตำรวจฝรั่งเศสจ่อยิงวัยรุ่นวัย 17 ปี ที่กำลังพยายามขับรถหนีจนเสียชีวิตบานปลายกลายเป็นการประท้วงก่อจลาจลทั่วทั้งดินแดนน้ำหอม

ในประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน มีข่าว “เชิงลบ” มากมายต่อองค์กรตำรวจไทย

ตรงกันข้ามกับสิงคโปร์เป็นประเทศที่ประชาชนมีความมั่นใจต่อตำรวจสูงมาก ทำให้การทำงานต่างๆของเจ้าหน้าที่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี เช่น การที่ประชาชนขอความร่วมมือจากประชาชนในการตามจับผู้ร้ายสำคัญ ประชาชนจะช่วยกันอย่างจริงจังและจริงใจ

สืบนครบาลมองเรื่องนี้ว่า “ในทุกวิกฤติ มันมีโอกาสอยู่ด้วยเสมอ” โอกาสที่จะทำให้ความมั่นใจของประชาชนที่มีต่อตำรวจกลับมาอีกครั้ง

“คือการทำให้สืบนครบาลเป็นหน่วยงานที่สร้างความหวังให้กับประชาชน ในขณะเดียวกันทำให้ ปรากฏการณ์ของสืบนครบาลเป็นแรงบันดาลใจของตำรวจทั้งประเทศ โดยเฉพาะตำรวจรุ่นใหม่ที่อยากจะเปลี่ยนแปลงองค์กรได้เห็นตัวอย่างของเรา  ทำให้พวกเขามีแรงบันดาลใจที่อยากจะต่อสู้แบบเรา ทำให้หน่วยงานของพวกเขากลับมาเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง” พล.ต.ต.ธีรเดชว่า

แนวทางของความคิดดังกล่าว ต้องฟังเสียงของประชาชนจริงๆ และแก้ไขให้ประชาชนจริงๆ ไม่ว่าคดีนั้นจะเล็กหรือใหญ่ ถ้าประชาชนเดือดร้อน เราต้องทำทันที

ที่ผ่านมา ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลยืนยันว่า คดีต่างๆที่สืบนครบาล มีทั้งคดีเล็กและคดีใหญ่ แต่ทั้งหมดเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อนจริง ๆ เช่น คดีหลอกขายไอแพดเด็กนักเรียนมูลค่าความเสียหายไม่กี่บาท แต่เราเข้าช่วยเหลือเหยื่ออย่างสุดความสามารถ เพราะรู้สึกถึงความเจ็บปวดของเหยื่อที่ยังหาเงินไม่ได้ ใช้เงินเก็บมาซื้อไอแพดเพื่อใช้ในการเรียนกลับถูกมิจฉาชีพโกง เป็นต้น

ทุกคดีที่พวกเขาช่วยเหลือปัจจุบันถูกยึดโยงกับความเดือดร้อนของประชาชน

รับฟังเสียงของประชาชน  คอยตอบประชาชนที่สอบถามหรือแจ้งเบาะแสมาทางเพจ “สืบนครบาล IDMB”  ทำให้ประชาชนเกิดการบอกต่อ กลายเป็น “เสียงบวก” ที่มีต่อหน่วยงาน

ขณะเดียวกัน พวกเขายังนำอัตชีวิตประวัติของตำนานนักสืบในอดีตกลับมาเล่าใหม่ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับตำรวจทุกคนในการต่อสู้อย่างไม่หวาดกลัวต่ออิทธิพล หรือความไม่ถูกต้องที่มาในทุกรูปแบบ

แนวคิดนี้ มีพื้นฐานมาจาก หลักทฤษฎีอาชญาวิทยาแนวใหม่ Proactive Policing and Community Collaboration พร้อมค่านิยมองค์กรใหม่ที่ยึดโยงกับประชาชน

การที่จะทำให้ประชาชนมีความหวังกับสืบนครบาล ทำให้เราต้องปรับทุกนโยบายใหม่ ทุกนโยบาย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์บอกว่า ต้องมีประชาชนเข้ามาในสมการ เป็นไปตามหลักทฤษฎีอาชญาวิทยาแนวใหม่ Proactive Policing and Community Collaboration” หรือหลักการตำรวจเชิงรุกพร้อมการสร้างความร่วมมือกับประชาชน

ปรับค่านิยมขององค์กรใหม่เพื่อสร้างความตระหนักในเจ้าหน้าที่ทุกคน ให้เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้งก่อนอันดับแรกเสมอ

ตามแนวคิด เซอร์โรเบิร์ต พีล ผู้ก่อตั้งตำรวจนครบาล กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่ยังคงเป็นแนวความคิดทันสมัยและเหมาะสมกับยุคปัจจุบัน

นำมาสู่การปรับเปลี่ยน “โลโก้” และ “ เครื่องแบบ” ตอกย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในองค์กรนักสืบแห่งนี้

พร้อมกับสิ่งที่เกิดขึ้น คือ เสียงตอบรับทางบวกจากประชาชนที่มีต่อหน่วยงานอย่างล้นหลาม มีทั้ง ติดต่อมาขอสมัครมาเป็น “นักสืบอาสา” ทั้งขอติดตามเป็น “แฟนคลับ” ที่พวกเขาได้รับรู้ทุกคอมเมนต์ ทุกความเห็นของประชาชน และอยากจะขอขอบคุณทุกคนจากใจจริง

เสียงตอบรับทางบวกยังสะท้อนถึงข้าราชการตำรวจด้วยกันที่บอกว่า มาถูกทางแล้ว ตำรวจอาชีพต้องเป็นแบบนี้

หลายคนอยากจะขอย้ายมาทำงานสืบนครบาล  

กับเป้าหมายสำคัญ การทำให้สืบนครบาล เป็น “หน่วยงานของประชาชนทุกคน”

RELATED ARTICLES