หลบบนฝ้า” วีรกรรมสุดแสบของโจรใจหื่น หนีหมายจับคดีล่วงละเมิดเด็กสาวอายุเพียง 13 ปี ทำให้เจ้าหน้าที่ที่ติดตามจับกุมตัว “เสียเหลี่ยม” ให้กับจอมโจรรายนี้หลายครั้ง ล่าสุด พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ส่งชุด “หมาล่าเนื้อ” สืบนครบาล พร้อมลูกศิษย์นักเรียนสืบสวนรุ่น 110 ลงพื้นที่ตามเบาะแสปิดล้อมบ้านต้องสงสัยกว่า 3 ชั่วโมง เจ้าตัวเล่นมุขเดิมปีนไปแอบบนฝ้า แต่ไม่รอดจมูกหมาของ “สืบนครบาล” เปิดฝ้าก่อนจับกุมตัวได้ในที่สุด ชาวบ้านรุมประณาม “เหยื่อพยายามฆ่าตัวตาย”
พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ พล.ต.อ. รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญษกรรมทางงเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มอบหมาย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สารวัตร(สอบสวน) กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.อ.มนตรี เฉลิมวัฒน์ รองสารวัตร กองกำกับการ 1 กองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร.ต.อ.จิรศักดิ์ ว่องไว รองสารวัตรกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ร.ต.อ.ชัยวิทย์ หาญญ์สุวรรณนที รองสารวัตรกลุ่มงานวิจัยและประเมินผล 2 กองวิจัยสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ ร.ต.ท.อนันตชัย สัจจพงษ์ รองสารวัตร ฝ่ายอำนวยการ 2 กองบังคับการอำนวยการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ร.ต.ท.เดชาธร ชมศิริ รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย ส.ต.ท.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัย ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 ร่วมกันสืบสวนติดตาม
กระทั่งจับกุม นายพิเชษ สองพล อายุ 47 ปี หรือ “เบียร์ ดอนเมือง” อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ที่ 3 ตำบลบุ่งเลิศ อำเภอเมยวดี จังหวัดร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานีที่ 226/2566 ลงวันที่ 24 ก.ค. 66
ข้อหา “กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นยินยอมหรือไม่ก็ตามโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู๋ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้” ที่หน้าบ้านเลขที่ 63/10 หมู่ 6 ตำบลบางพูด อำเภอเมืองปทุมธานี จากพฤติการณ์ได้คบหากับหญิงสาวคนหนึ่งอยู่กินด้วยกัน บ้านอยู่ใกล้กันกับบ้านของ “เหยื่อ” เด็กหญิงสาวอายุเพียง 13 ปี ที่ผู้ต้องหามักไปมาหาสู่และพบกันบ่อยครั้ง ผิวเผินดูเป็นเพียงผู้ใหญ่กับเด็กหญิงสาวทั่วไป หากแต่ในทุกครั้งที่ พบกับเหยื่อจะพยายามล่วงละเมิดทั้งทางกายและวาจา จับต้องร่างกาย ลูบขา ลูบหน้าอก หรือบางครั้งลุกลามไปถึงการล้วงอวัยวะเพศของเหยื่ออยู่ตลอดเวลาเมื่อสบโอกาส
เหยื่อเด็กหญิงรายนี้ต้องทนทุกข์ทรมานใจเป็นอย่างมาก เพราะความสัมพันธ์ของผู้ล่วงละเมิดนั้นเป็นญาติใกล้ตัว ไม่สามารถจะบอกใครได้ อีกทั้งที่อยู่อาศัยยังใกล้กับบ้านของผู้ต้องหาจำใจต้องทนทรมานไม่ต่างจากขุมนรกถึงขนาด “พยายามฆ่าตัวตาย” อยู่หลายครั้ง กระทั่งญาติของเธอได้สังเกตถึงความผิดปกติพาเข้าแจ้งความดำเนินคดีกั เมื่อผู้ต้องหาทราบได้หลบหนีไปผลุบๆโผล่ๆไม่ต่างจากผีไร้ศาล แต่ ยังพยายามที่จะไปดักพบกับเหยื่อหญิงสาวอยู่ตลอด ต่อมาฝ่ายสืบสวน สถานีตำรวจภูธรสวนพริกไทย จังหวัดปทุมธานี ได้ประสานมายัง “สืบนครบาล” ให้ช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาลพร้อม “นักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 110” นักสืบรุ่นใหม่ไฟแรงลงพื้นที่ติดตามจากเบาะแสเดียวที่มีคือ “นานๆจะกลับมาหาแฟนสักครั้ง” เฝ้าแฝงตัวในชุมชน เป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์
ท้ายสุดทราบความเคลื่อนไหวผู้ต้องหาจะกลับมาพบแฟนสาวในชุมชน ไม่รอช้า ทีมสืบสวนนครบาลนำกำลังเข้าไปปิดล้อมบ้าน เมื่อเคาะประตูเรียกปรากฏว่าภายในบ้านไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ซ้ำยังพยายามปิดไฟภายในบ้านหมดทำเสมือนว่าไม่มีคนอยู่ภายในบ้าน ชุดสืบสวนเกลี้ยกล่อมเกือบ 3 ชั่วโมง กระทั่งตัวแฟนของผู้ต้องหายอมให้ผู้นำชุมชนเข้าตรวจสอบภายในบ้าน ทว่า“ไร้เงา” เป้าหมายอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเหมือนเช่นเดิมทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม สัญชาตญาณหมาล่าเนื้อของทีมสืบนครบาลไม่ธรรมดา สะกิดใจ “ขอเปิดฝ้าเพดาน” พบผู้ต้องหานอนขุดคู้ซ่อนตัจนยินยอมลงมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่
สอบสวนยัวให้การปฏิเสธอ้างไม่ได้มีอะไรกับเด็กสาว ช่วงนั้นโรงเรียนปิดเทอม เด็กพักอยู่บ้านเดียวกัน เพราะเกี่ยวข้องเป็นหลานของเมีย ระหว่างอยู่กันสองต่อสองได้ใช่ให้ช่วยยกพัดลมเข้ามาในห้องเพราะอาการ้อน เด็กช่วยยกพัดลมเข้ามาในห้อง มีการแตะเนื้อต้องตัวเด็กคนนั้นไปนิดหน่อย ไม่ได้ทำมิดีมิร้าย แต่แม่เลี้ยงของเด็กเข้ามาเห็นแล้วโวยวายกล่าวหาล่วงละเมิดเด็ก ก่อนพาไปแจ้งความและเสนอเรียกร้องเงิน 15,000 บาท ผู้ต้องหาไม่ยอมก่อนย้ายกลับไปอยู่บ้านเก่าแถวดอนเมืองเพื่อไม่ให้เรื่องมันบานปลาย ยืนยันว่า ไม่ได้ทำมิดีมิร้ายต่อเด็กสาวตามที่ถูกกล่าวหา
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลบอกว่า จากการตรวจสอบคนร้ายรายนี้เป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด มีลักษณะของอาการ “ใคร่เด็ก” และยิ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเด็กหญิงรายใด ต้องถือว่าเด็กคนนั้นตกอยู่ในอันตราย ชุดสืบสวนสามารถจับกุมผู้ต้องหาถือว่าน้องสามารถใช้ชีวิตโดยปลอดภัย ขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนคนที่ที่บุตรหลานของท่านเคยตกเป็นเหยื่อของคนร้ายรายนี้ โปรดแจ้งเบาะแสมาที่เราทางเพจเฟซบุ๊กสืบนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง และแม้จะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
