ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดปราบปรามแก๊งโจรกรรมลักทรัพย์ประชาชนบริเวณที่พักอาศัยและแหล่งชุมชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างหนัก สร้างความเดือดร้อนและกระทบการดำรงชีวิตของประชาชนอย่างรุนแรงเป็นวงกว้าง ชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบนครบาล IDMB และ นักเรียนหลักสูตรสืบสวนคดีอาญารุ่น 110 ได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากภาคประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีคนร้ายก่อเหตุตระเวนลักถังแก๊ส ไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นใคร แต่ชาวบ้านเรียกว่า “ต๋อมถังแก๊ส” ก่อเหตุมาไวไปไว จอด ยก บิด หลบทุกแยกแทรกทุกซอย หนำซ้ำมีที่อยู่ไม่เป็นที่ หาตัวจับยาก แม้มีกล้องวงจรปิดจับตาแทบทุกหย่อมหญ้า ยังหายไปได้โดยไม่ทิ้งร่องรอย สร้างความวุ่นวายกับประชาชนไปทั่วโดยเฉพาะพ่อค้าแม่ขาย
ความเดือดร้อนทะลุถึงคนรากหญ้าหาเช้ากินค่ำครั้งนี้ ทำให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล มอบหมาย พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผู้กำกับการสืบสวน 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนนครบาล พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สารวัตร (สอบสวน) กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 และเหล่านักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 110 ร่วมกันสืบสวนติดตาม
กระทั่งจับกุมตัวนายขจรเดช ประเสริฐศิลป์ อายุ 44 ปี ที่อยู่ 90/208 หมู่ 8 ตำบลละหาร อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ตามพฤติการณ์สืบเนื่องคนร้ายเป็นชายไม่ทราบชื่อ นามสกุลจริง สวมเสื้อยืดกีฬาสีเขียว สวมกางเกงขาสั้นสีดำ ขับขี่จักรยานยนต์ฮอนด้าซูเมอร์เอ็กซ์ไม่ทราบทะเบียนมาจอดหน้าร้านอาหารแล้วเข้าไปลักเอาแก๊ส ปตท. ขนาดบรรจุ 15 กิโลกรัมจำนวน 2 ถัง เอาไปวางที่หน้ารถและด้านท้ายรถแล้วขับหลบหนีไปทางสามแยกท่าน้ำบางศรีเมือง เดือดร้อนจนไม่สามารถประกอบอาหารค้าขายได้ สร้างความเดือดร้อนมาก ถึงมาร้องขอความช่วยเหลือผ่านเพจสืบนครบาล
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล วางแผนทำข้อมูลที่ได้จากการไล่กล้องวงจรปิด เส้นทางเกิดเหตุ-หลังเกิดเหตุ และการสอบถามจากพยานแวดล้อม ประสานแผนประทุษกรรมพื้นที่ใกล้เคียง จนสืบทราบตำหนิรูปพรรณและยานพาหนะในการก่อเหตุว่าตรงกัน รวมทั้งตรวจสอบร้านขายแก๊สในพื้นที่พบว่ามีลูกค้าที่นำถังแก๊สมาขายที่ร้านแก๊ส ตำหนิรูปพรรณตรงกันกับผู้ก่อเหตุ ร้านยังถ่ายบัตรประชาชนไว้ เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลซึ่งมีหมายจับข้อหาลักทรัพย์ของสถานีตำรวจภูธรบางศรีเมือง จังหวัดนนทบุรี เนื่องจากเส้นทางหลบหนีไม่มีกล้องวงจรปิดในระยะที่ต่อเนื่องกัน แต่พบว่าคนร้ายเดินทางเข้าไปในซอยวัดโมลี อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี คาดว่าคนร้ายได้พักอาศัยอยู่ในซอยดังกล่าว
จากการจัดสืบสวนชุดเฝ้าจุดซุ่มดูผู้ต้องหาตั้งแต่ระยะเวลา 04.30 น. ระหว่างที่เฝ้านั้นยังได้แบ่งกำลังอีกชุดหนึ่ง เข้าค้นหารถจักรยานรถที่ใช้ก่อเหตุภายในซอย กระทั่งพบจักรยานยนต์ต้องสงสัยที่ตำหนิรูปพรรณตรงกันกับคนร้ายจอดอยู่หน้าห้องพักภายในซอย รอจนพบผู้ต้องหาขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากห้องเช่าทราบเป็นคนเดียวกันเพิ่งมาขอเช่าห้องได้ 7 วัน ตำรวจวางสายที่อยู่ตรงข้ามกับห้องพักให้ส่งข่าวหากผู้ต้องหากลับเข้ามานำไปสู่การจับกุมหัวขโมนถังแก๊สได้สำเร็จบริเวณห้องพักเลขที่ 25 หมู่ 1 ซอยบางรักใหญ่ 22 ตำบลบางรักใหญ่ อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี
สอบสวนรับว่าเมื่อวันที่ 19 กรกฏาคม 2566 เวลาประมาณ 19.10 น. ร่วมกับภรรยาขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนก่อเหตุลักทรัพย์ถังแก๊สที่บริเวณหน้าวัดศาลารี หมู่ที่ 4 ตำบลบางไผ่ อำเภอเมืองนนทบุรี 2 ถัง นำถังแก๊สที่ได้ลักทรัพย์ไปขายต่อที่ร้านขายแก๊สไม่ทราบชื่อ หมู่ที่ 2 ตำบลบางไผ่ อำเภอเมืองนนทบุรีได้เงินมาจำนวน 1,800 บาท และยังตระเวนก่อเหตุในลักษณะเดียวกันอีกหลายครั้งในหลายท้องที่
