คอลเซ็นเตอร์รูปแบบใหม่จัดฉากขู่เรียกค่าไถ่ 3 ล้าน

 

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้วิธีหลอกแบบใหม่อ้างตัวเองเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินแจ้งผู้เสียหายว่าพัวพันกับยาเสพติดให้น้องไปเช่าอยู่ที่อื่นเพื่อความปลอดภัย เมื่อน้องเปิดห้องที่พักแล้วจะสั่งการควบคุมโดยวิดีโอคอลคุยกับน้องตามคำสั่งไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินคดี มีคนร้ายอีกทีมติดต่อกับแม่หลอกว่าลูกถูกจับเรียกค่าไถ่ ต้องโอนเงินมา 3 ล้านบาท พบว่าคนร้ายทั้งหมดสั่งการอยู่ประเทศกัมพูชา พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนตครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสนสบอสวนตำรวจนครบาลจัดชุดสืบสวนเข้าดำเนินการโดยเน้นความปลอดภัยของผู้เสียหาย และให้ดำเนินการสืบสวนจับกุมกลุ่มคนร้ายเร็วที่สุด

พฤติการณ์ คือ คนร้ายคอลเซ็นเตอร์ใช้เบอร์โทรศัพท์ หมายเลข 698958129007 โทรหานางสาว อ. นามสมมติ นักศึกษา ชั้นปี่ที่ 2 มหาวิทยาลัยชื่อดัง ย่านลาดกระบัง อ้างเจ้าหน้าที่บริษัทไปรษณีย์ไทย แจ้งว่า เป็นผู้ส่งพัสดุผิดกฎหมาย  ถามย้ำว่าใช้ตัวนางสาว อ. นามสมมติ เป็นผู้ส่งหรือไม่ ฝ่ายหญิงตอบว่าไม่ใช่ มีการแนะนำให้ไปแจ้งความ  อ้างว่าพัสดุส่งจากจังหวัดสงขลา ต้องไปแจ้งความที่จังหวัดสงขลา นางสาว อ.  บอกไม่สะดวก บุคคลที่อ้างตัวว่าเป็น เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์อาสาประสานติดต่อแจ้งความเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้

ต่อมามีการโอนสายให้บุคคลที่อ้างว่าเป็นตำรวจ ทำทีเช็กประวัติ พบบัญชีธนาคารของนางสาว อ. เกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงิน ให้เหยื่อรวมเงินจากทุกบัญชีธนาคารที่มีเข้ามาในบัญชีธนาคารเดียวเข้าบัญชีคนร้ายเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน จากนั้นหว่านล้อมให้เหยื่อย้ายสถานที่ไปโรงแรมใกล้เคียงมหาวิทยาลัยย่านสุวรรณภูมิ มีสายอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินขอข้อมูลทางบ้าน ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์พ่อแม่ และให้บอกพอแม่ว่าถูกลักพาตัว เพื่อให้แม่โอนเงินมาตรวจสอบด้วยความรวดเร็ว และห้ามติดต่อใคร จะมีตำรวจติดต่อแม่เองเสร็จแล้วจะโอนเงินคืนทั้งหมด

ปรากฏว่า คนร้ายอีกทีมได้โทรศัพท์หาแม่ของเหยื่อด้วยไลน์ของลูกสาว ทำให้เชื่อว่า ลูกอยู่กับคนร้าย และตกอยู่ในอันตราย แถมขู่จะตัดนิ้วทิ้งหากไม่โอนเงิน 3 ล้านบาทเข้าบัญชีของลูก ทำให้พ่อของเหยื่อแจ้งขอความช่วยเหลือต่อ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล มอบหมาย พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ รองผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ต.ทศรัสมิ์ กิติธารา
สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.อ.ธนพล มโนษร รองสารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รองสารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล กับพวกออกติดตามช่วยเหลือเหยื่อได้ในห้องพัก ส่วนคนร้ายตัดสายสนทนาทิ้ง ตรวจสอบพบอยู่ประเทศกัมพูชาใช้การโทรศัพท์ และควบคุมเหยื่อด้วยการวิดีโอคอล

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์  ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลบอกว่า เป็นวิธีการกระทำความผิดแบบใหม่ของคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แยกการหลอกเหยื่อและผู้ปกครอง อ้างใช้การเรียกค่าไถ่ และข่มขู่จะตัดนิ้วเพื่อให้ผู้ปกครองยอมโอนเงินทั้งหมดให้  เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องระดมกำลังเพื่อออกปฏิบัติการเนื่องจากผู้ปกครองเป็นห่วงความปลอดภัย เข้าใจว่าเป็นเรื่องเรียกค่าไถ่จริง สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมเป็นอย่างมาก อยากประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนมีภูมิคุ้มกันในรูปแบบใหม่ของขบวนการคอลเซ็นเตอร์ และขอเตือนคนไทยที่ร่วมกระทำผิดจะต้องถูกจับดำเนินคดีทุกราย

RELATED ARTICLES