เผชิญวิบากกรรมในบั้นปลาย
อดีต พ.ต.ท.พิการวัย 70 ปี นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 30 ชีวิตตบอับสุดขีด ผ่าตัดกระดูกต้องใช้ไม้เท้าเป็นขาที่สาม ไปไหนมาไหนต้องใช้รถโยก
อาศัยอยู่เพียงลำพัง
โดนเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามา “ยกหม้อไฟ” ทั้งที่หักบัญชีธนาคารจ่ายทุกเดือน ต้องร้องสื่อช่วยเป็นสื่อกลางตีแผ่เรื่องราวสะท้อนอาชีพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ยาม “ไร้หัวโขน” ไม่มียศ ตำแหน่ง
แม้กระทั่งเพื่อนฝูง
นายสมใจ จันทรังษี อดีตนายตำรวจเก่าพักอยู่บ้านเลขที่ 288 หมู่ 10 บ้านดงสมบูรณ์ ตำบลพังขว้าง อำเภอเมืองสกลนคร เดินทางด้วยรถเข็น 3 ล้อใช้มือโยกเข้าพบสื่อมวลชนเพื่อมาขอความเป็นธรรม
เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนโดนตัดไฟ ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบาก อาบน้ำไม่ได้ อาศัยท่ามกลางความมืด หุงหาอาหารต้องก่อไฟเอง ล้างถ้วยล้างชามต้องอาศัยน้ำฝน
เจ้าตัวอ้างเผตุที่ถูกตัดไฟน่าจะมีชื่อ “สมใจ จันทรังษี” ซ้ำกันแต่อยู่คนละแห่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดทั้งที่ทุกเดือนมีการหักบัญชีธนาคารเป็นประจำอยู่แล้ว
ชีวิตปัจจุบันลำบากมาก
แม้ในอดีตเคยเจอกับมรสุมระหว่างรับราชการตำแหน่งสุดท้ายเป็นสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ ทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาไปจับนักการเมืองท้องถิ่น กลับโดนอิทธิพล “สอยร่วง” ชนิดที่ ผู้เป็นนาย” ไม่ได้เหลียวแลปกป้อง
ผิดวินัยร้ายแรง โดนออกจากราชการ ถูกถอดยศ
ทำให้เส้นทางสะดุด ท่ามกลางเพื่อนในรุ่นหลายคนที่รุ่งโรจน์ในอาชีพ ตั้งแต่ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา พล.ต.อ.สุพร พันธ์เสือ พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปประจ่าง พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน พล.ต.ท.ปริญญา จันทร์สุริยา พล.ต.ต.ปรีชา ธิมามนตรี เป็นต้น
“ไม่คิดว่าชีวิตจะตกต่ำถึงขนาดบ้านที่อยู่ก็ผุพัง แต่ก็ยังสู้ ถ้าไม่ถูกเอาเปรียบ” เขาตัดพ้อ
สมบัติที่มีราคาชิ้นเดียวน่าจะเป็นรถเก๋งยี่ห้อ ฟอร์ดคอร์แซร์ ทะเบียน กท 6024 สกลนคร นำเข้ามาจากฝรั่งเศส ในปี 2475
เป็น มรดกตกทอดของพ่อ ที่ครั้งหนึ่งมีคนเล่าให้ฟังว่า คนขับรถ คือ ร.ท.ชาติชาย ชุณหวัณ คนที่นั่งข้างคือ ร.ท.เปรม ติณสูลานนท์ ในเมืองนครราชสีมา
ดังนั้นรถรุ่นนี้น่าจะเป็นรถโบราณที่มีประวัติไม่ธรรมดา หากใครที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่โทร.088 528 0494
หวังเป็นทุนประทังชีวิตบั้นปลายที่เหลืออยู่