“แก๊งไข่หวง” ขบวนการชาวไต้หวันสุดแสบเป็น 4 เจ้าพ่อยาเสพติดต่างชาติ หอบเสื้อผ้าข้ามน้ำข้ามทะเลแฝงตัวในประเทศไทย ตั้งเป็นฐานทัพลำเลียงยาเสพติดส่งขายทั้งในไทยตาม KTV ชาวจีน และส่งออกนอกทางเรือ แผนประทุษกรรมสุดแนบเนียน “ซุกเพลารถ”ตบตาการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่มาได้หลายครา “สุดซวย” เจอของจริง “บิ๊กป๋อ” พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มือปราบปรามยาเสพติดได้รับข้อมูลกรณีขบวนการยาเสพติดข้ามชาติก่อนสั่งการ “ผู้การจ๋อ” พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 5 ศูนย์อำนวยการป้องกันปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสริมทัพตามรอยกว่า 3 เดือนจนทราบว่าเป็น“เจ้าพ่อยาเสพติดไต้หวัน” ชื่อแก๊งไข่หวง อาศันเซฟเฮาส์ลับในหมู่บ้านหรูกลางกรุง เป็นฐานทัพบัญชาการรับ-ส่งออกยาเสพติด ก่อนวางกำลังซุ่มโปร่งจนพบลางบอกเหตุเตรียมเคลื่อนย้ายของกลางลงเรือ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน จับตาฤกษ์ยามดีสั่งลุยบุกเข้าตรวจค้นพบแท่งเพลารถนอนเกลื่อนเซฟเฮาส์ 14 แท่ง ลุยผ่าแท่นเพลาพบกัญชาและยาไอซ์ทะลักออกมาเพียบ บุกขยายผลต่อจนเจอรังผลิด “แฮปปี้วอเตอร์” จับกุมผู้ต้องหาทั้งขบวนการ 7 คน ล้วนเป็น “ตัวเด็ด” ที่ทางการไต้หวันต้องการตัว พิสูจน์ดรีกรีมือ 1 ของบิ๊กป๋อ ไว้ลายก่อนเกษียณอายุราชการสิ้นเดือนกันยายน 2566
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มอบหมาย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผู้กำกับการสืบสวน 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สารวัตร (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล และเหล่านักเรียนหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รุ่นที่ 111 บูรณาการกำลังร่วม
พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 1 พ.ต.ท.บดินทร์ ร้อยกรอง รองผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 พ.ต.ท.ทศพร พวงทอง สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 พ.ต.ท.เรวัช ประจวบสุข สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 ร.ต.อ.ธนัชพงศ์ วัชรราศีวิทย์ รองสารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 สืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา 7 คนประกอบด้วย นายเฉิน ยู่ หนิง อายุ 34 ปี สัญชาติ ไต้หวัน ฉายา “ขาลาย”ตัวการใหญ่ของขบวนการลักลอบขนยาเสพติดข้ามประเทศ บุคคลตามหมายจับของไต้หวันในคดี “ยาเสพติด” ที่ทางการต้องการตัว เคยถูกตำรวจไต้หวันจับกุมเมื่อ 7 เดือนก่อนได้ประกันตัวชั้นศาลและหลบหนีเข้ามายังประเทศไทย นายหลี่ หมิง เจิ้น อายุ 26 ปี สัญชาติไต้หวัน ฉายา “เบาหวิว” นายเซิง เยี่ยน หมิง อายุ 31 ปี สัญชาติไต้หวัน บุคคลตามหมายจับของไต้หวันในคดี “ฉ้อโกง” ที่ทางการต้องการตัว เช่นเดียวกับ นายหลิน เฉอ เฉิง อายุ 24 ปี สัญชาติไต้หวันที่หนีหมายจับคดี “ฉ้อโกง” ในถิ่นเกิด นายเฉิน ยี่ เหวิน อายุ 23 ปี สัญชาติไต้หวัน มีหมายจับของไต้หวันคดี “ยาเสพติด ฟอกเงิน ฉ้อโกง และอบายมุข” นายชู ชุน เยน อายุ 22 ปี สัญชาติไต้หวัน มีคดี “ฉ้อโกง” ที่ทางการไต้หวันต้องการตัว และน.ส.อภิญญา อุดม อายุ 24 ปี ที่อยู่ 377 หมู่ 9 ตำบลแสนสุข อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
ตรวจยึดของกลางได้อีก 8 รายการ ได้แก่ แท่งเหล็กเพลากลางรถบรรทุก 17 แท่ง (ซึ่งใช้สำหรับบรรจุซุกซ่อนยาเสพติดของกลาง) ยาไอซ์ 1,057 กรัม กัญชา 10 กิโลกรัม ครื่องมืออุปกรณ์เพื่อตัดแปลงท่อนเพลาเพื่อใช้ซุกซ่อนยาเสพติด กว่า 15 รายการ ยาไฟว์ไฟว์ 29 เม็ด เครื่องปั่นใช้ผสมยาเสพติด 2 เครื่อง เคตามีน 17 กรัม
และยาแฮปปี้วอเตอร์ จำนวน 1 ซอง จับกุมผู้ต้องหา 2 คนแรกได้บ้านเลขที่ 89/19 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร แล้วขยายผลจับกุมที่เหลือ บ้านเลขที่ 111/30 ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
สืบเนื่องจากช่วงเที่ยงวันของวันธรรมดาวันหนึ่งในเดือนสิงหาคม 2566 พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับแจ้งจากสายลับมี “กลุ่มชายชาวไต้หวันสักลาย” ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ หลังจากเจ้าตัวลุยงานปราบปรามยาเสพติดมาทั้งชีวิตจนปัจจุบันมีดีกรีมือปราบยาเสพติดอันดับ 1 แม้จะเป็นห้วงสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการก็ไม่สามารถทานจิตวิญญาณ “นักบู๊” หวนนึกความรู้สึกในวัยหนุ่มกลับมาอีกครั้ง จัดแจงโทรหาหน้าห้อง “ยกเลิกทุกภารกิจ” ก่อนต่อสายสั่ง “ผู้การจ๋อ” พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ส่งทีมตามสะกดรอย จนพบ “แท่งเพลา” ทั้งสิบกว่าแท่ง ตามรอยจน “เจอตัวเป้ง” เป็นขบวนการขนยาเสพติดข้ามชาติระดับ “4 ราชายาเสพติดไต้หวัน” ชื่อ “แก๊งไข่หวง” ที่ถูกทางการไต้หวันออกหมายจับตามล่าหลบหนีมาอยู่ในประเทศไทยไปถึง “เซฟเฮาส์” ในหมู่บ้านหรูย่านใจกลางกรุงที่เป็นฐานทัพบัญชาการรับ-ส่งออกยาเสพติดของแก๊งไข่หวง ก่อนวางกำลังซุ่มโปร่งแอบดูจนพบแท่งเพลา 17 แท่งห่อแร็บเตรียมส่งออกนอก ก่อนนำหมายค้นศาลอาญามีนบุรีที่ 535/2566 ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2566 บุกเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหา 2 รายแรกพร้อมของกลาง ขยายผลถึงรังใหญ่ในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ คว้าลูกสมุนร่วมแก๊งที่เหลืออีก 5 คน
ในชั้นจับกุม นายเฉิน ยู่ หนิง อายุ 34 ปี หัวหน้าขบวนการแก๊งไข่หวงสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ให้การว่า เมื่อ 7 เดือนก่อน ถูกตำรวจไต้หวันจับกุมเป็นข่าวดังเพราะเป็นขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ แต่จ้างทนายสู้คดีและประกันตัวออกมาหนีขึ้นเรือสินค้าเป็นเวลากว่า 15 วันจนถึงประเทศกัมพูชา ก่อนเดินทางเข้ามาตั้งฐานทัพใหม่ในประเทศไทย อยู่ระหว่างค้นหาวิธีการที่จะส่งออกยาเสพติดไปยังไต้หวัน มีผู้ร่วมขบวนการชื่อว่า “เสี่ยวผ้าง” อยู่ในไต้หวันและคอยรอรับยาเสพติดจากที่ส่งไปจากประเทศไทย เห็นจากข่าวเรื่องการลักลอบขนส่งยาบ้าและเฮโรอีนผ่ายัดลงไปในเพลารถและเชื่อมเพื่อปกปิดทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ง่าย จึงลองนำมาใช้ ซื้อเพลารถที่จังหวัดชลบุรี นำยาเสพติดที่หามาจากเพื่อนชาวไต้หวันเตรียมส่งออกนอกประเทศ
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลระบุว่า คนร้ายกลุ่มนี้เรียกได้ว่าเป็นสมาชิกแก๊งขนส่งยาเสพติดข้ามแดนรายใหญ่ที่ทางการไต้หวันต้องการตัว จากการขยายผลหัวขบวนการรายนี้ถูกตามล่าจากทางการไต้หวัน หลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติเพื่อกบดานและใช้ประเทศไทยเป็นฐานสร้างเครือข่ายในการขนส่งยาเสพติดกลับไปยังไต้หวัน กำลังทดลองเพื่อส่งออกยาไอซ์ แต่ทำไม่สำเร็จถูกจับกุมเสียก่อน หลังปฏิบัติการนี้ทางการเจ้าหน้าที่ไต้หวันได้ประสานงานมาที่ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในทันทีเพราะผู้ต้องหาเป็นที่ต้องการตัวของทางการไต้หวันเป็นอย่างมาก
“เราจะขยายผลร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไต้หวันให้ถึงที่สุด เพราะปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาความมั่นคงระดับชาติที่หยั่งรากฝังลึกในสังคมไทยและมีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นมาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมอบนโยบายในการแก้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระเร่งด่วนลำดับแรก และสั่งการเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดทุกมิติ และขอฝากไปยังประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากมีเบาะแส สามารถแจ้งได้ที่ เฟซบุ๊กเพจ “สืบนครบาล IDMB” ตลอด 24 ชั่วโมง” พล.ต.ต.ธีรเดชว่า
