ทีมเมียหลวงงัดหลักฐานร้องสู้คดีผัวเก่าฮุบที่ดินมรดก

 

ยังไม่จบ “คดีผัวตัวแสบร่วมมือกับน้อง6คน ฮุบที่ดินเมียหลวงและลูกกว่าพันล้าน” ล่าสุดทีมเมียหลวง งัดหลักฐานการโอนซื้อที่ดิน และพินัยกรรมพ่อผัวโชว์สื่อ  ระบุร้านทองไม่ใช่กงสี เงินซื้อที่จึงไม่เกี่ยวกับตระกูลผัวเก่า  ด้าน “อดีตสามี” พบตอนนี้นอนป่วยอยู่ ขณะที่น้องชายก็ไล่นักข่าวพร้อมปฏิเสธการให้ข้อมูลโดยบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของครอบครัว

จากคดีอดีตสามีร่วมมือกับน้อง 6 คน ฟ้องศาลแพ่ง ฮุบที่ดินเมียหลวงและลูก2 คน รวม 19 แปลง มูลค่ากว่าพันล้านบาท ล่าสุดเรื่องดังกล่าวจะยังไม่จบลงง่ายๆ เพราะล่าสุดทางฝั่ง นางปองจิตร เลี้ยงสุคนธร เมียหลวง พร้อมลูกชายและลูกสาว ออกมาโชว์หลักฐานสื่อมวลชนเป็นเอกสารการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และซื้อขายที่ดินด้วยแคชเชียร์เช็ค ทั้งที่ดิน5 แปลงแรก เป็นสินสมรสของตัวเองและอดีตสามีที่ช่วยกันสร้างขึ้นมา และที่ดินอีก 14 แปลง ที่ซื้อหลังจากแยกทางกับอดีตสามีแล้ว ซึ่งเป็นเงินที่นางปองจิตรและลูกๆหามาด้วยตัวเอง

ต่อมาอดีตสามีและน้องๆ อีก 6 คน ยื่นฟ้องคดีแพ่ง อ้างว่าที่ดินทั้งหมดเป็นที่ดินที่ซื้อมาจากเงินกงสีของตระกูลฝั่งสามีด้วย จนกระทั่งศาลพิพากษาตามที่โจทย์ยื่นฟ้อง ฝั่งอดีตสามีเป็นผู้ชนะ

ล่าสุดฝ่ายเมียหลวงพบหลักฐานชิ้นสำคัญที่ถือว่าเป็นไม้เด็ดในการสู้คดีที่จะได้ที่ดินทั้งหมดกลับคืนมา เป็น “พินัยกรรม” ที่พ่อของอดีตสามีและเป็นปู่ของลูกทั้งสองทำขึ้นก่อนเสียชีวิตและนำมาฝากไว้กับลูกสะใภ้ พินัยกรรมฉบับนี้ระบุว่า “ร้านทอง…ไม่ใช่กงสี” เป็นธุรกิจส่วนตัวของพ่อสามี ประโยคนี้ทำให้เธอเชื่อว่า พินัยกรรมมีความชัดเจนน่าจะมีน้ำหนักพอที่จะทำให้ศาลเห็นใจว่า ที่ดินทั้งหมดเป็นการหามาด้วยน้ำพักน้ำเเรงของเธอและลูกๆ ไม่ใช่เงินกงสี ตามที่ฝั่งอดีตสามีและน้องๆรวม7คน ยื่นฟ้องในครั้งแรก

ด้านลูกสาวกล่าวว่า นอกจากหลักฐานพินัยกรรม และเอกสารการซื้อขายที่ดินแล้ว ยังมีคลิปเสียงสนทนาที่เธอ และพี่ชายได้ไปพูดคุยกับผู้เป็นพ่อ หลังศาลฎีกาตัดสินคดีเป็นการถามพ่อว่า ทำไมทำกับพวกเธอแบบนี้ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าที่ดินทั้งหมดเธอและพี่ชายร่วมกันสร้างมันขึ้นมา ได้รับคำตอบว่า “พวกอาอยากได้ที่ดินแปลงนี้  ขอให้พ่อให้การเท็จ เพื่อยืนยันว่าที่ดินทั้งหมดเป็นของกงสี ไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนตัวของ3คนแม่ลูก”

ส่วนทางด้านอดีตสามีคู่ความในประเด็นร้อน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามข้อเท็จจริงที่บ้านพักละเเวกเดียวกัน  พบกลายเป็นผู้ป่วยนอนติดเตียงอยู่ และปฏิเสธการให้ข้อมูล เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านทองแห่งที่ระบุไว้ในพินัยกรรมว่า ไม่ใช่ของกงสี น้องชายที่มีศักดิ์เป็นอาของลูกพี่ชายได้ครอบครองตามคำสั่งศาลฎีกาปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลและไล่ออกมาจากร้านอ้างเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ขอชี้แจงใดๆทั้งสิ้น

RELATED ARTICLES