สืบนครบาลตามรวบคู่รักชาวเขมรตระเวนล้วงประเป๋าทั่วกรุง

 

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ปราบปรามจับกุมอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบ ตลอดจนอาชญากรที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริต  เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาล (IDMB) ได้รับทราบถึงกลุ่มคนร้ายออกตระเวนล้วงกระเป๋าตามห้างสรรพสินค้า และแหล่งชุมชนที่มีนักท่องเที่ยวและผู้คนสัญจรเป็นจำนวนมากทั่วกรุงเทพมหานคร มีวิธีการก่อเหตุ คือ จะมีการแบ่งหน้าที่กันทำแบบชัดเจน คนหนึ่งจะทำการประชิดตัวผู้เสียหายเพื่อทำการเบี่ยงเบนความสนใจ ก่อนที่อีกคนหนึ่งจะล้วงกระเป๋าเอาทรัพย์สินไปแล้วหลบหนี

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลส่งทีมนักสืบในสังกัด พร้อมนักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญารุ่นทที่ 111 แกะรอยสืบสวนกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพออกลาดตระเวนล้วงกระเป๋า พบมีการทำหน้าที่กันเป็นรูปแบบ และมีการแบ่งหน้าที่กันอย่างเป็นระบบ ทำให้ พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล นำกำลังตามจับกุมตัว นายบูย ยางฮา สัญชาติกัมพูชา และ นางสาวแมรี่ จีน สัญชาติกัมพูชา คู่รักมือฉมังตระเวนล้วงกระเป๋าทั่วเมืองกรุงได้สำเร็จ

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล มอบหมาย พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระรองออย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล  พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล นำกำลัง พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รองผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รองผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ต.คณิตนนท์ ถนอมศรี สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล

รวบนายบูย หรือบอย ยางฮา อายุ 31 ปี สัญชาติกัมพูชา น.ส.แมรี่ หรือส้ม จีน อายุ 27 ปี สัญชาติกัมพูชา
ในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ของกลางโทรศัพท์มือถือที่ลักทรัพย์มา และชุดที่ใช้ในการก่อเหตุรวมกว่า 36 รายการ ได้ที่บริเวณหน้าห้องพักเลขที่ 310 อพาร์ตเมนต์ทรัพย์เอเชีย ซอยสุขุมวิท 111 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ ตามพฤติกรรมสืบเนื่องจากปัญหาการก่ออาชญากรรมของกลุ่มมิจฉาชีพที่ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์สินของชาวบ้านในปัจจุบัน มอบหมาย พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล สืบสวนจนทราบแผนประทุษกรรมของแก๊งล้วงกระเป๋าตามห้างสรรพสินค้า และแหล่งชุมชนที่มีนักท่องเที่ยวและผู้คนสัญจรเป็นจำนวนมากทั่วกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนอย่างต่อเนื่องจนสามารถพบว่ากลุ่มของผู้ก่อเหตุโดยสารรถประจำทางมาจากบริเวณห้างอิมพีเรียล สำโรง ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนจับกุมทั้งคูู่ได้ที่บ้านพัก

สอบสวนสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า มื่อประมาณต้นปี 2565 ลักลอบเข้าประเทศไทย ผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณ จังหวัดสระแก้วเมื่อเข้ามาในประเทศไทย ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ตัดสินมตวางแผนร่วมกันก่อเหตุล้วงประเป๋า ซักซ้อมกันจนชำนาญ ออกก่อเหตุตามบริเวณห้างสรรพสินค้า และแหล่งชุมชนที่มีนักท่องเที่ยวและผู้คนสัญจรเป็นจำนวนมากในจังหวัดกรุงเทพมหานคร เพื่อนำทรัพย์สินที่ได้ไปขายเพื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลระบุว่า การเดินทางระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น เป็นสิ่งที่กระทำได้ง่ายมากขึ้น เป็นผลดีต่อการร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจในแต่ละประเทศ ทว่าเมื่อเข้ามาในประเทศของผู้อื่นแล้วต้องเคารพกฎหมายของแต่ละประเทศเช่นกัน  ขอฝากเตือนไปยังกลุ่มผู้เข้ามาภายในประเทศไทยโดยที่คิดสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนนั้น ให้คิดเลิกทำ แต่ถ้ายังไม่เลิกทำ เราจะติดตามท่าน จนไปถึงหน้าประตูแม้อยู่นอกกรุงเทพมหานคร

RELATED ARTICLES