ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับ พ.ต.อ.อภิมุข กานตยากร รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รองผู้บังคับการศูนย์เทคโนโลยี สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ปฏิบัติราชการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ปฏิบัติราชการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.สรธรรศจ์ เอี่ยมละออ ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.รัฐพงษ์ แก้วยอด ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผู้กำกับการปฏิบัติการอาชญากรรมพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ
รวบชาวจีนสามีภรรยาหลอกระดมทุน หนีหมายจับ มูลค่าความเสียหายกว่า 1.5 พันล้านบาท ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาดำเนินการกรณี สาธารณรัฐประชาชนจีน มีหนังสือมายังกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้จับกุมตัว นายหวาง (นามสมมติ) และนางชาง สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับ สาธารณรัฐประชาชนจีน ข้อหา ฉ้อโกงลักษณะอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ จัดตั้งบริษัทระดมทุนชื่อว่า“Tianjin Wusetu” หลอกให้ผู้เสียหายร่วมระดมลงทุนและแอบอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าปกติ มีผู้เสียหายในเมืองปักกิ่งและเทียนจินตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก สร้างความเสียหายกว่า 1.5 พันล้านบาท
จากการตรวจสอบข้อมูลในระบบสารสนเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพบว่าทั้งคู่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวและการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่สิ้นสุด ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้อนุมัติให้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าเป็นบุคคลที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศออกหมายจับ มีพฤติการณ์ที่สมควรเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรแล้วขึ้นบัญชีเป็นบุคคลเฝ้าระวังไว้ ก่อนตามจับกุมทั้งสองคนได้
อีกรายรวบสาวแดนมังกรผู้ต้องหาบัญชีม้าแก๊งพนันออนไลน์ ตามสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย มีหนังสือมายังกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งข้อมูลนางมิน (นามสมมติ) อายุ 29 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีน ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ปกปิดทรัพย์สินที่เป็นผลได้จากการกระทำความผิดร่วมกับสามีเป็นเจ้าของและผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มการพนันออนไลน์ “Kaka Bay Casino” มีฐานที่ตั้งอยู่ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ยังมอบบัญชีธนาคารเพื่อให้สามีโอนเงินที่ได้รับจากการทำพนันออนไลน์ กว่า 120 ล้านหยวน (600 ล้านบาท) เข้าบัญชีของตัวเอง นำเงินไปซื้อรถยนต์และใช้จ่ายส่วนตัวที่ประเทศจีน ต่อมาสืบสวนทราบว่านางมินได้หลบหนีมายังประเทศไทย ส่วนสามีหลบหนีไปยังประเทศสิงคโปร์ ก่อนจับกุมได้ในที่สุุด
ขณะที่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จับหนุ่มเมืองกิมจิ OVERSTAY หนีหมายจับกบดานไทยพักอาศัยภายในซอยเคหะร่มเกล้า 19 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ทราบชื่อนายจีซอง (นามสมมติ) อายุ 37 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ เดินทางเข้ามาในประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 3 กันยายน 2565 การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดเป็นเวลา 347 วัน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักร โดยการอนุญาตสิ้นสุด และเมื่อประสานสอบถามไปยังทางการเกาหลีใต้ในประเทศไทย ทราบว่า นายจีซองเป็นผู้ต้องหาสำคัญที่ทางการเกาหลีใต้ออกหมายจับและต้องการตัวกลับไปดำเนินคดีในข้อหา ลักลอบนำเข้ายาเสพติด (เมทแอมเฟตามีน น้ำหนัก 997.01 กรัม) เป็นบุคคลตามประกาศตำรวจสากลสีแดง (Red Notice)
