เมื่อประชาชนต้องการความช่วยเหลือให้สืบนครบาลติดตามตัว “บอย หนุ่มคลั่งติดยาเสพติด” ชอบใช้ความรุนแรง ก่อเหตุทำร้ายร่างกายเมียและลูก กักขังหน่วงเหนี่ยวจนเคยตัว ทั้งยังตามข่มขู่รังควานเมียคนปัจจุบันและลูกจนหวาดผวาไม่เป็นอันกินอันนอน เมื่อภรรยาได้ขอความช่วยเหลือเข้ามา สืบนครบาลและนักเรียนหลักสูตรสืบสวนคดีอาญารุ่น 111 ตรวจสอบพบมีหมายจับทำร้ายร่างกายภรรยาเก่าจนทนไม่ได้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลสั่งการให้สืบสวนทุกวิถีทางกว่า 3 วัน 3 คืน จนพบว่าผู้ต้องหาได้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่อยู่หนีมากบดานอยู่ในย่านลาดพร้าว83 ถึงแม้ว่าจะติดตามตัวได้ยาก แต่ก็ไม่รอดพ้นฝีมือสืบนครบาลและนักเรียนสืบสวนได้รับคำขอบคุณจากผู้เสียหายทำให้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล อำนวยการให้ พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รองผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล สั่งการให้ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.พิสิทธิ์ เตชะ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ต.กฤตวัฒน์ ขุนอินทร์ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.อ.ปรัชญา โคตรสาขา รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล นำนักเรียนหลักสูตรการสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 111 ออกติดตามหนุ่มคลั่งยาเสพติดรายนี้
ก่อนควบคุมตัว นายธีรศักดิ์ หรือบอย (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 39 ปี ที่อยู่ตามบัตร เลขที่ 91 หมู่ 8 ตำบลทุ่งต่อ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ผู้ต้องหาตามหมายจับ : หมายจับศาลอาญา ที่ 2235/2566 ลง 13 กรกฎาคม 2566
ข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสและกระทำความรุนแรงในครอบครัว ได้บริเวณหน้าบ้านเช่าซอยลาดพร้าว 83 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ตามพฤติการณ์ทำร้ายร่างกายภรรยาเก่าจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและกระทำความรุนแรงในครอบครัวอยู่ระหว่างพิจารณาคดี แต่ได้หลบหนีไประหว่างชั้นพิจารณาคดีในชั้นศาล ต่อมาได้มาอยู่กินกับภรรยาใหม่มีลูกด้วยกันสองคน ยังไม่เลิกนิสัยเสพยาเสพติดจนมักมีอาการคลุ้มคลั่งและหลอนจนทำร้ายภรรยากับลูก กักขังอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ภรรยาและลูกทนไม่ไหวหวาดกลัวจนต้องหลบหนีไปพักที่อื่นหลบหนีมาได้กว่า 5 เดือนแล้ว เพื่อไม่ให้หาเจอ สอบสวนสารภาพทิ้อยากจะเลิกเสพยาและทำตัวให้ดีขึ้น ปัจจุบันมาประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่อ ในช่วงเวลาที่พักไม่ได้ขับรถแท็กซี่ยังเสพยาอยู่เป็นประจำ ได้เงินมาก็เสพยา และเล่นพนันออนไลน์
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล กล่าวว่า ความรุนแรงในครอบครัว เป็นทุกข์ที่สร้างความเดือดร้อนที่ไม่สามารถปล่อยไว้ อีกทั้งผู้ก่อเหตุมีประวัติเสพยาเสพติด มีผลกระทบกับการดำเนินชีวิตปกตินโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลจะต้องดำเนินการทันที