สตม.แถลงกวาดแก๊งจีนเกี่ยวข้องเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์

 

ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1  พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พ.ต.อ.สำราญ กลั่นมา ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 4 ร่วมแถลงข่าวผลการทลายเครือขายขนคนจีนข้ามชาติเกี่ยวข้องกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวม 5 ครั้ง จับกุมคนไทย 5 ราย คนจีน 20 รายเป็นการหลอกคนจีนด้วยกันมาทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศเพื่อนบ้าน ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการกระทำความผิด

แก๊งนี้มีพฤติการณ์กระทำความผิดซ้ำเหมือนกันทุกครั้ง  ทำเป็นขบวนการตั้งแต่รับตัวคนจีนจากชายแดนไทยผ่านชองทางธรรมชาติริมแม่น้ำโขง บริเวณจังหวัดมุกดาหารมายังอำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แล้วสับเปลี่ยนรถ ส่งตัวคนจีนให้กับทีมขนคนจีนอีกทีมที่มาจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตากพาข้ามไปยังประเทศเมียนมา เครือข่ายขนคนจีนในครั้งนี้ ถูกจับกุมทั้งหมด 5 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงเดือน มีนาคม ถึง สิงหาคม  2566 จั ในพื้นที่กดาหาร  กาฬสินธุ์   กำแพงเพชร พระนครศรีอยุธยา และหนองคาย

ครั้งที่สองที่เจ้าหน้าที่จับกุมนั้นอยู่ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นคนจีน 3 ราย ให้การว่า ถูกหลอกมาทำงานที่ชายแดนเมียนมาพาขึ้นรถยนต์ขับผ่านประเทศเวียดนาม ลาว และเข้าประเทศไทยไปต่อยังประเทศปลายทาง  เมื่อถึงในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ได้หลบหนีและขอความช่วยเหลือ ส่วนคนไทยที่พาตัวมานั้นได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่มีเบาะแสแล้ว อยู่ระหว่างการขออนุมัติหมายจับ

จากการสอบสวนพบว่าทั้งหมดเป็นเครือข่ายเดียวกัน มีการสลับสับเปลี่ยนทีมในการขนคนจีนในแต่ละครั้ง ส่วนสาเหตุที่มีการย้ายฐานการก่อเหตุนั่นก็เพราะว่า ทางประเทศกัมพูชามีการกวาดล้างอย่างเข้มงวด จึงทำให้มีการขนย้ายคนออกมาเพื่อพาส่งประเทศเพื่อนบ้าน  คาดว่า จะมีทั้งประเทศเมียนมาและ ประเทศลาว ที่จะถูกใช้เป็นฐานของแก๊ง ส่วนผู้ที่ถูกจับกุมบางรายให้การว่าถูกหลอกให้ไปทำงานบาร์ หรือล่ามแปลภาษา แต่ก็ถูกพาไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ขณะที่มีบางรายทราบดีว่าถูกหลอกแต่ก็ยังยอมเข้าไปทำงานดังกล่าว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ที่สั่งการอยู่เบื้องหลังเป็นชาวจีน ส่วนคนไทยเป็นเพียงกลุ่มที่ถูกว่าจ้างให้ขนส่งเท่านั้น ยังไม่ทราบว่า ปลายทางจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งใหญ่เพียงแก๊งเดียว หรือเป็นการขนส่งไปตามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อื่นๆ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และขยายผลเครือข่ายแก๊งนี้ต่อไป

 

RELATED ARTICLES