จากคดีอุกอาจยิงสารวัตรทางหลวงดับอย่างโหดเหี้ยมในพื้นที่เมืองนครปฐม เหิมเกริมรัวกระสุนใส่ร่าง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เสียชีวิต มี พ.ต.ท.วศิน พันปี รองผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวงบาดเจ็บ ภายในบ้านของนักการเมืองท้องถิ่นในตำบลตาก้อง อำเภอเมืองนครปฐม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับรายงานแล้วสั่งการด่วนให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองบังคับการปราบปราม ประสาน พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เร่งรัดออกหมายจับคนร้ายที่ก่อเหตุ และไล่ล่าติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว หากขัดขืนให้ใช้มาตรการเด็ดขาดดำเนินการได้ทันทีตามความเหมาะสมต่อสถานการณ์
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังได้สั่งการเพิ่มเติมให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำกำลังปูพรมระดมกวาดล้างอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดนครปฐม เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ คนร้ายไม่เกรงกลัวกฎหมาย ให้เน้นตรวจค้นอาวุธปืน ยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ รวมทั้งการขยายผลดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องทุกราย มี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงไปควบคุมการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
ด้าน พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปราม รับคำสั่งจาก พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำชุดสืบสวนลงพื้นที่ตั้งแต่เมื่อคืนเกิดเหตุ นำโดย พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนชัยแก้ว รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ปฏิบัติราชการกองบังคับการปราบปราม และ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ปิดล้อมจุดต้องสังสัยใน จังหวัดนครปฐม และจังหวัดไกล้เคียงเพื่อกดดันติดตามตัวมือปืน และกำนันคนดังอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้มีรายงานสืบสวนสอบสวนจากพยานที่เกี่ยวข้องทราบว่า นายปวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก นักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ได้ช่วนไปนั่งรับประทานอาหารในงานเลี้ยงประจำเดือนที่บ้านพัก มี พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง นั่งโต๊ะยาวร่วมกับเจ้าของาน พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พ.ต.ท.วศิน พันปี รองผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.ต.ณรงค์ พิทักษ์ฉนวน สารวัตรฝ่ายอำนวยการกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง และด.ต.ชนาณัฐ วุฒิยากร ผู้บังคับหมู่สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง มี จ.ส.ต.พิสิฐ ชิวปรีชา ผู้บังคับหมู่ สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง หลานชาย พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแ่หงชาติ และ จ.ส.ต.เมทิศกร พันศ์สีจันทร์ ผู้บังคับหมู่ สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง คอยบริการผสมเครื่องดื่มให้ ส่วนอีกโต๊ะหนึ่งที่เป็นผู้ร่วมงาน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง และลูกน้องของกำนันนก รวมถึงนายธนัญชัย หมั่นมาก อายุ 45 ปี มือปืนคุ้มกันในซุ้มอิทธิพลของกำนันนั่งอยู่ด้วย
ระหว่างนั่งรับประทานอาหาร ดื่มสุรา พูดคุยกันไปตามปกติประมาณ 1 ชั่วโมง พยานได้ยินกำนันเจ้าของบ้านพูดคุยกับ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว ผู้ตาย เรื่องต้องการให้ช่วยสับเปลี่ยนตำแหน่ง จ.ส.ต.พิสิฐ ชิวปรีชา ที่อ้างเป็นญาติจากหน้างานสายตรวจรถวิทยุ ไปอยู่หน้างานสายตรวจจักรยานยนต์ แต่ พ.ต.ต.ศิวกรปฏิเสธให้เหตุผลต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเกษียณก่อนเพื่อเปิดตำแหน่งว่าง สร้างความไม่พอใจให้กับกำนันอิทธิพลในลักษณะเสียหน้า พูดขึ้นมาในลักษณะไม่พอใจว่า “ขอมันคนเดียว มันเป็นหลานผม” นายตำรวจหัวหน้าสถานีตำรวจทางหลวงนครปฐมยังแสดงทีท่าปฏิเสธอยู่ ทำให้กำนันไม่พอใจ ลุกขึ้นยืน และตบโต๊ะเสียงดัง แล้วย้ายไปนั่งที่หัวโต๊ะของผู้ร่วมงานที่มีลูกสมุนอยู่ด้วย
พยานให้การว่า เห็นผู้ตายพาลูกน้องเข้าไปขอโทษ แต่กำนันไม่ไยดีพูดจาไล้ส่ง พ.ต.ต.ศิวกรเลยกลับมานั่งโต๊ะเดิม ส่วน จ.ส.ต.พิสิฐ ชิวปรีชา อยู่คุยกับเจ้าของงานสักพักก็ลากลับบ้าน ประมาณ 5 นาทีหลังจากนั้นเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็บังเกิดขึ้น เมื่อนายธนัญชัย หมั่นมาก ลุกขึ้นปรี่เข้ามาหา พ.ต.ต.ศิวกร ชักปืนกึ่งอัติโนมัติรัวยิงใส่ร่างจนฟุบ ส่วน พ.ต.ท.วศิน พันปี พยายามเข้ามาช่วยโดนกระสุนเข้าแขนซ้ายบาดเจ็บไปด้วย ท่ามกลางความโกลาหลของเหตุการณ์ไม่มีตำรวจคนไหนพกอาวุธ เพราะคิดว่าเป็นงานเลี้ยงอาหารธรรมดาไม่จำเป็นต้องมีปืนติดตัว คนร้ายและกำนันอิทธิพลได้ฉวยจังหวะชุลมุนหลบหนีไป ตำรวจได้ช่วยกันนำร่างทั้งคู่ส่งโรงพยาบาลจังหวัดนครปฐม แต่ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว ถูกกระสุนเข้าจุดสำคัญหลายแห่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา
