“แฝงคราบสายบุญ” อุทาหรณ์สอนใจสำหรับสาวม่ายผู้สูงวัย วงการนี้มีมิจฉาชีพแฝงตัวอยู่เป็นจำนวนมาก ล่าสุดหนุ่มวัย 33 ปี ผู้มีคาแรคเตอร์เป็นเอกลักษณ์ด้วยท่าทางยั่วยวนใจหญิงม่ายผู้สูงวัยได้เป็นอย่างดี ได้ติดสอยห้อยตามสาวม่ายวัย 58 ปี รายหนึ่ง ตลอดความสัมพันธ์ได้แอบจดจำข้อมูลต่างๆไว้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะ “รหัสผ่าน” ของโทรศัพท์และแอปพลิเคชันธนาคาร ก่อนจะค่อยๆหาโอกาสแอบโอนเงิน โดยที่ผู้เสียหายแทบจะไม่รู้ตัวว่าเจ้าหนุ่มค่อยๆสูบเลือด ล่าสุด พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลส่งมือดี พร้อมนักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญารุ่น 113 แฝงตัวเข้าแวดวงเก้งกวางจนได้เบาะแสนำมาสู่การจับกุมได้ในที่สุด ผู้ต้องหายืนยันเสียงแข็งมิได้เป็นผู้ชายขายน้ำ
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มอบหมาย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาบ พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผู้กำกับการสืบสวน 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สารวัตร (สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล
นำกำลังนักเรียนอบรมหลักสูตรคดีอาญารุ่นที่ 113 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกอบด้วย ร.ต.อ.ธนพัฒน์ รุ่งเรืองสาคร ร.ต.อ.วสันต์ คงใย รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรสามโคก จังหวัดปทุมธานี ร.ต.อ.เอนก นักเทศ รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ ร.ต.อ.สามารถ แก้วสะแสน รองสารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร ร.ต.ท.อดิศร จูห้อง รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ร่วมสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายกิตติธัช หรือองค์ หรือจิว สุสิฬา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 901/271 ซอยภาวนา แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนงที่ จ.337/2566 ลงวันที่ 15 มิถุนายน 2566 ข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน , ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน , เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน”
พฤติการณ์เป็นอุทาหรณ์สอนใจสำหรับหญิงสาวม่ายผู้สูงวัย ในความสัมพันธ์ที่สลับซับซ้อนกับหนุ่มหล่อสายแทคแคร์ มีเหล่ามิจฉาชีพแฝงตัวอยู่ในคราบ “แมง” ล่าสุหญิงผู้เสียหายรายหนึ่งวัย 58 ปี ได้ประสบพบเจอกับหนุ่มรูปงามวัย 33 ปี มีชื่อเสียงเรียงนามในแวดวงเหล่าเก้งกวาง ด้วยใบหน้าตามีอออร่าเปล่งปลั่ง กริยาท่าทางยั่วยวนใจ ความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นขอไม่กล่าวถึง แต่เรื่องราวแรกเริ่มนั้นน้ำต้มผักก็ว่าหวานพากันเดินทางสายบุญเข้าวัดเข้าวา หารู้ไม่ว่าแมงรายนี้ได้วางแผนก่อเหตุไว้ ตลอดเวลาความสัมพันธ์ได้แอบจดจำข้อมูลต่างๆของหญิงม่ายวัย 58 ปีนี้ไว้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะ “รหัสผ่าน” ของโทรศัพท์และแอปพลิเคชันธนาคารของเธอ ก่อนจะค่อยๆหาโอกาสที่อยู่ด้วยกันลงมือแอบใช้โทรศัพท์ของเธอโอนเงินออกจากบัญชีครั้งละไม่มาก อาศัยความที่หญิงม่ายมีเงินในบัญชีจำนวนมาก ทำให้แทบจะไม่รู้ตัวว่าแมงรายนี้ค่อยๆสูบเลือดอยู่ เรื่องเริ่มแดงขึ้น เมื่อหญิงผู้เสียหายจับได้ว่าเจ้าตัวแอบโอนเงินออกจากบัญชีไปหลายครั้ง รวมเป็นเงิน 50,000 บาท ก่อนหายเข้ากลีบเมฆไปในทันทีชนิดที่ว่า ชาตินี้ไม่ต้องพบเจอกันอีก ฝ่ายหญิงตัดสินใจเข้าแจ้งความกระทั่งได้มีการออกหมายจับ
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาล และ นักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญ รุ่นที่ 113 แฝงตัวเข้าไปในกลุ่มเก้งกวางผู้ชายขายน้ำ กระทั่งได้เบาะแสสำคัญจนสามารถจับกุมตัวได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 901/271 ซอยภาวนา แขวงสามเสนนอก เขตห้วงขวาง กรุงเทพมหานคร ในชั้นจับกุมสารภาพตลอดข้อกล่าวหาระบุจบชั้นปริญญาตรี สาขาการบริหารจากมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรามคำแหง หลังจบมาได้ทำงานเป็นพนักงานในธนาคาร เป็นนักบัญชีในบริษัทเอกชน ก่อนจะผันตัวเดินสายเป็นฟรีแลนซ์ทำงานจิปาถะทั่วไป กระทั่งได้มาพบกับหญิงม่ายผู้เสียหายในเส้นทางนักบุญ เข้าวัดเข้าวาทำกิจกรรมสายบุญ ติดสอยห้อยตามเป็นเวลาแรมปีจนถึงช่วงเกิดเหตุตนเองเกิดความโลภ เห็นว่า สาวม่ายมีเงินหลายล้านบาท แอบจดจำรหัสผ่านโทรศัพท์และลงมือแอบโอนเงิน แต่ไม่ได้โอนเป็นจำนวนมากโอนทีละเล็กๆน้อยๆ ยอมรับว่าเป็นต้นเหตุให้ความสัมพันธ์ทั้งสองได้จบลง กลายเป็นความบาดหมาง และตนพยายามหาเงินไปคืน แต่ก็ยังไม่มีคืนมาเป็นเวลานานแล้ว ยอมรับว่าผิดจริง และยืนยันว่า ไม่ใช่ผู้ชายขายบริการ หรือบาร์โฮสแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลบอกว่า ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา จากพฤติกรรมของเจ้าตัว ไม่มีงานทำเป็นกิจจะลักษณะ ด้วยความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนที่ไม่ขอกล่าวถึง อาจมีหญิงสาวเคยตกเป็นเหยื่อเช่นนี้อีก ขอฝากถึงหญิงสาวที่เคยตกเป็นเหยื่อลักษณะนี้แล้วไม่สามารถบอกใครได้ สามารถแจ้งมาที่เฟซบุ๊กเพจ สืบสวนนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่ประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง เราจะมีการดำเนินการให้อย่างเป็นความลับ แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
