“ผมเป็นคนในเครื่องแบบ เป็นนายทหาร ผมร้องไห้ไหม ผมเสียน้ำตาตั้งแต่ครั้งแรก ไม่เคยจาง ผมคิดถึงเขา” พ.อ.วินัย ยาวไทยสงค์ ข้าราชการบำนาญ บิดาของ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผู้กำกับการ 2 กองกำกับการตำรวจทางหลวง ลูกชายที่ล่วงลับระบายความรู้สึก
“ผมสูญเสียแก้วตาดวงใจผมไป ถูกพิพากษาจากสังคมช่วงเวลาหนึ่งก็เข้าใจว่า เกิดจากความเครียด” นายทหารวัยเกษียณรำพัน
“แต่ในเมื่อคลี่คลายไปทางที่ดี ผมไม่สามารถเอาลูกผมกลับมาได้” น้ำเสียงแสดงความเศร้า
เขาสร้างลูกขึ้นมาเป็นนักรบ เป็นความภาคภูมิใจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็น “พรานเวหา” ที่เก่งกาจสามารถ เป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เหนือตำรวจหลายอย่าง
พ.อ.วินัยจำใจยอมรับความสูญเสียจากหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ ขอให้ดวงวิญญาณของลูกชายไปสู่สุขคติสัมปรายภพแล้วกลับมาเป็นพ่อเป็นแม่กันอีกหลาย ๆ ชาติ
“ผมจะรอเขา” นายทหารนักรบเก่าเสียงหนักแน่นแต่แฝงไปด้วยความอาลัย
ขณะที่เพื่อนนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 55 บางคนกลั้นน้ำตาไม่อยู่พรั่งพรูออกมากลางงานฌาปนกิจศพเพื่อนผู้จากไปที่วัดใหม่ท่าเสา อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ บ้านเกิดเมืองนอนของพระยาพิชัยดาบหัก
วิญญาณนักรบถึงสิงสถิตเต็มร่าง พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์
เพื่อนบางคนไม่วายอารมณ์เดือดเคียดแค้นกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้นกับความพยายาม “ป้ายผิด” ดิสเครดิตนายตำรวจหนุ่มผู้วายชนม์ให้การเท็จ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบจากเหตุโศกนาฏกรรมเลือดบ้านกำนันอิทธิพลท้องถิ่นจังหวัดนครปฐม
ถึงขนาดจะโยนทิ้งพวงหรีดของ “นายพลชั้นผู้ใหญ่” หากส่งมาแสดงความเสียใจ
เอาคนตายมาขายให้คนเป็นเหยียบศพข้ามขึ้นโรงละครในบท “ตำรวจดี” กับ “ตำรวจเลว” เรียกเรตติ้งคนดูเป็น “ซีรีส์สีเทา”
ลาก “ไส้เน่า” สะท้อนเรื่องเศร้าของวงการผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
แม้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะมีคำสั่งโอนคดีทั้งหมดให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางรับไปดำเนินการต่อจากคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 และทีมเฉพาะกิจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ทว่าภาพโฆษณาชวนเชื่อพาเอาแฟนคลับคิดมโนไปต่าง ๆนานาหมดศรัทธากันไปแล้ว
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมทีมงานกองบังคับการปราบปรามด้วยสีหน้าเคร่งเครียดกับโจทย์ข้อยากเพื่อจะคลายความสงสัยที่กลายเป็นคำถามค้างคาจากสังคมโซเชียล
ไม่เชื่อมือกองกำลังอาร์มสวย
ทั้งที่แม่ทัพสอบสวนกลางพยายามชี้แจงแถลงความเป็นมาอย่างละเอียดเพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และยืนยันเสียงแข็งไม่มีทางเข้าข้างอิทธิพลสั่งตาย พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง
“ไม่เช่นนั้น ผมก็อยู่ไม่ได้ในฐานะผู้บังคับบัญชา” พล.ต.ท.จิรภพบอกหลักการทำงาน
ทว่าบางเรื่องละเอียดอ่อนจำเป็นต้องอาศัยเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงของประเด็นข้อหาให้การเท็จกับปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตำรวจหลายคนในงานปาร์ตี้ละเลงเลือด
ต้องแยกคนผิดกับคนไม่ผิด และไม่อยากด่วนสรุป
อาจไม่ทันใจผู้ชม
มี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบการการทุจริตและประพฤติมิชอบ รักษาการผู้บังคับการตำรวจทางหลวงออกมาปกป้อง พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ พรานเวหาผู้ลาลับ
“ส่วนตัวขอความเป็นธรรมให้ผู้กำกับวชิราด้วย เนื่องจากคนตายไปแล้วไม่สามารถพูดได้ แต่จากการที่ลงไปดูที่เกิดเหตุตั้งแต่ต้น เจอกับพ.ต.อ.วชิรา สภาพมือและแขนเสื้อยังเปื้อนเลือดอยู่”
เจ้าตัวระบุว่า จากการสอบถามพยานให้การตรงกันว่าหลังจากเกิดเหตุยิงสารวัตรศิว พ.ต.อ.วชิราไม่ได้หนีไปไหน เข้าไปช่วยประคองขาของสารวัตรศิว จากนั้นได้สั่งลูกกนัอง 3 คน ไปคอยอุ้มร่างขึ้นรถส่งไปโรงพยาบาล แล้ว พ.ต.อ.วชิรา ได้กลับมาช่วย พ.ต.ท.วศิน พันปี อีกคนที่ถูกยิง ขึ้นรถกระบะ
กระทั้งมี ภาพ พ..ต.อ.วชิรา ไปปรากฏอยู่ที่โรงพยาบาล ลงจากรถกระบะเข้าไปในห้องฉุกเฉิน
“ ตรงนี้เราต้องนำมาเข้าการพิจารณาว่า มันเข้ามาตรา 157 หรือเปล่า คนที่ตายไปแล้วถือว่า ทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว รวมทั้งรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ต้องขอความเป็นธรรมให้ด้วย” พล.ต.ต.จรูญเกียรติแอ่นอกแทนน้องรักนักรบคอมมานโด
ย้ำไม่มีเจตนารมณ์ช่วยเหลือแก้ตัวให้พวกเดียวกัน
ทุกอย่างอยู่ที่ข้อเท็จจริงตามไทม์ไลน์
ไม่ใช่ป้ายสีใครสะเปะสะปะ