อุณหภูมิร้อนทะลักจุดเดือดกลางทุ่งปทุมวัน ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา
คนในรั้วส่วนใหญ่ “สะใจ” ทว่าคนนอกรั้ว “เห็นใจ” มองเป็นการ “กลั่นแกล้ง” ขวัญใจของประชาชนที่ท้าชนทุกอิทธิพลออกจอทีวี
ปฏิบัติการ Big Cleaning Day กวาดบ้านตำรวจ ทำสะเทือนยุทธจักรสีกากี
ชุดทำงานของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมกำลังหน่วยคอมมานโด กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ นำโดย พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นำหมายศาลบุกเข้าค้นบ้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในหมู่บ้านทาวน์อเวนิว ซิกซ์ตี้ ซอยวิภาวดีรังสิต 60 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
กลายเป็นเรื่องฮือฮาทำนายพลตำรวจเอกเจ้าของบ้าน “หัวเสีย” ไม่ยอมให้เข้าบ้าน
รอกระทั่ง พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เดินทางไปพูดคุยจนสถานการณ์คลี่คลาย
อ้างเหตุผลจากข้อมูลเส้นทางการเงินสีเทาโยงใยเครือข่ายเว็บพนันรายใหญ่พัวพัน 8 ตำรวจคนสนิทใน “ค่ายหวานเจี๊ยบ”
นำไปสู่การออกหมายจับควบคุมตัว พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศสมัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศสมัย ผู้กำกับการตำรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทร์บุรี พ.ต.อ.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดฉะเชิงเทรา พ.ต.ท.คริษฐ์ ปรียะเกตุ รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธรสำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.ต.ชานนท์ อ่วมทร นายตำรวจติดตามรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผู้บังคับหมู่งานสายตรวจ 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร ส.ต.อ.อธิสิทธิ์ คนยงค์ ผู้บังคับหมู่ป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา
ทำให้เกิดกระแสข่าวพุ่งเป้าเกม “ชิงอำนาจ” ช่วงไทม์มิ่งก่อนประชุมพิจารณาแต่งตั้ง “เจ้าสำนัก” พอดี
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ถึงต้องออกมาโวยลั่นเป็นเรื่องการเมืองภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติจ้องประจาน “ดิสเครดิต” ตัวเขาที่เป็นแคนดิเดตแม่ทัพคนหนึ่งด้วยเหมือนกัน
มี “เกรียนคีย์บอร์ด” จัดใหญ่ใส่ไฟ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อยู่เบื้องหลังฉากปฏิบัติการของ “ตำรวจไซเบอร์”
ชกใต้เข็มเตะสกัดตัดขาคู่แข่งเหมือนที่ตัวเขาเป็นฝ่ายโดนก่อนหน้า
ทั้งที่ข้อเท็จจริงเป็นชุดทำงานเฉพาะของศูนย์อำนวยการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คลำเป้ามานานกว่า 2 เดือน
เป็นผลงานของ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี สายตรง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหอกแกะรอยก่อนตัดสินใจขอกำลังกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมาร่วมเสริมภารกิจ
ยืนยันมีพยานหลักฐานชัดเจน ไม่หวั่นถูกฟ้องกลับ เพราะทุกอย่างทำตามหน้าที่ ทำตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ แม่ทัพเบอร์ 1 ที่นับเวลาถอยหลังถอดหัวโขนการันตีข้อมูลการสืบสวนสอบสวนของลูกน้องมือดีเช่นเดียวกัน
บอกด้วยว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการพิจารณาแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่
แม้ “บิ๊กโจ๊ก”จะจับสัญญาณความผิดปกติ แต่ย้ำถึงความบริสุทธิใจของตัวเอง
ลอยแพลูกน้อง “ทำพิษ” ไปแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นลำพัง
ผิดว่าไปตามผิด ไม่ช่วยเหลือเข้าข้างกัน แค่ขอความเป็นธรรม เพราะตัวเองไม่ได้อยู่กับทีมตลอด 24 ชั่วโมง
เปลี่ยนบท “พระเอก” ใน “ซีรีส์สีเทา” โปลิศจับตำรวจ “ปาร์ตี้เลือด” บ้านกำนันอิทธิพลไปตกค่ายกลรับบท “ผู้ร้าย” เพียงชั่วข้ามคืน
“เรื่องนี้มันเป็นเรื่องการเมืองภายในองค์กร ขอให้ทุกคนรับรู้ข่าวสารลองพิจารณาดูเอาเอง” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ขอคะแนนสงสาร
แฟนคลับต่างชูมือให้กำลังใจสุดลิ่ม
กระนั้นก็ตาม ม่านเวทีเพิ่งรูดเปิดการแสดงยังไม่มีใครรู้บทละครตอนอวสานของเรื่องร้อนในทุ่งปทุมวัน
