คงเป็นโบแดงแสลงใจกับผลปฏิบัติการจู่โจมบุกจับสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท ซอยศูนย์วิจัย ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ถึงกับ “นอตหลุด” กลางที่ประชุมมอบนโยบายปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามนายตำรวจระดับผู้บังคับการ-ผู้กำกับการในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล
ต่อหน้า พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เดินทางไปเน้นให้ทุกพื้นที่ตรวจสถานบริการอาบอบนวดในความรับผิดชอบทั้งหมด
ห้ามไม่ให้มีการค้ามนุษย์และบุคคลต่างด้าวเข้าทำงานโดยผิดกฎหมาย
ก่อนที่ผู้นำนครบาลจะคำรามเสียงดังลั่นกลางวง
“หากท้องที่ใดปล่อยปละละเลยถูกนอกหน่วยเข้ามาจับกุมเหมือนกับคดีวิคตอเรีย ซีเครท ท้องที่วังทองหลาง จะย้ายผู้กำกับพื้นที่ให้ดูโดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมไม่ว่าจะเป็นเด็กในคาถาของใคร” พล.ต.ท.ชาญเทพประกาศคาดโทษ
ไม่โกรธหรือพูดถึงเรื่องบัญชีส่วย
ขณะที่อีกด้านฝ่ายพระเอกของเรื่องกำลังสร้างความโกรธเคืองไม่สบอารมณ์กันเอง เมื่อปฏิบัติการไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้
เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการนอกหน่อยพึมพำถึงการบริหารจัดการนักข่าว
คุยกันอย่างดีจะกันนักข่าวจนกว่าจะพร้อมแล้วแถลง แต่พอเอาเข้าจริงบางคนกลับอนุญาตให้นักข่าวเข้ามารุมถ่ายแต่ผู้หญิง แถมสั่งเปิดห้องเก็บตัวผู้หญิงที่กำลังทำประวัติให้นักข่าวกรูเข้าไปถ่ายภาพ
เจ้าหน้าที่บางคนเข้ามาถ่ายเซลฟี่ เช็กอินราวกับอยู่ใน “สวนสนุก”
เขาทำหน้าที่ไปน้ำตาตกไปรู้สึกอายสื่อต่างชาติ
นอกจากไม่มีความเป็นผู้นำหน่วยแล้วยังไม่มีความเป็นมืออาชีพ
การทำงานของบางหน่วยเริ่มลุแก่อำนาจ บ่อยครั้งให้ “เอ็นจีโอ” ไปสืบหาข้อมูลแล้วสนธิกำลังบูรณาการแบบกาก ๆ ใช้วิธีการเก่าเอาเงิน “ล่อซื้อตีหม้อ” พอเสร็จสมอารมณ์ใคร่ก็ส่งสัญญาณเข้าจู่โจมจับกุม
กระทั่งเกิดคำถามว่า เอ็นจีโอ เอาอำนาจอะไรมาสืบสวน
“พวกค้ามนุษย์จริงไม่จับ กลับจ้องแต่จับกะหรี่ตีกินเอาผลงาน” เจ้าหน้าที่ในหน่วยทนเห็นความโสมมไม่ไหวระบายให้ฟัง
“มันน่าภูมิใจตรงไหนไปวิ่งไล่จับกะหรี่” เขารำพัน
นี่แหละเบื้องหลังโบแดงของแสลงตำรวจที่น่าเจ็บปวดยิ่งกว่า !!!