ผลผลิตผิดฝากับหน้าตามือปราบตัวปลอม

“การจับผู้ร้ายถือเป็นหน้าที่ ไม่ใช่ความดีความชอบ” นายพลตำรวจวัยเกษียณคนหนึ่งว่าไว้

เป็นอุดมการณ์การทำงานที่เขายึดถือมาตลอดชีวิตราชการ

ขณะที่หลายคนชอบอยู่ฉากหลัง “ปิดทองใต้ฐานพระ” มุ่งมั่นตั้งหน้าตั้งตาทำงาน แต่สุดท้ายพ่ายแก่ระบบในวงจรแต่งตั้งโยกย้าย

ไปไม่ถึงดวงดาว

เมื่อมีไม่น้อยชอบสร้างฉากอวดตัวเป็น “มือปราบ” แต่งภาพทำเป็น “จ่าฝูง” ทั้งที่ไม่มีความเป็น “ผู้นำ” ทิ้งชะตากรรมให้ลูกน้องเสี่ยงเข้ารกเข้าพง

หลงตัวเองว่ามีชื่อเสียง แต่เป็นเพียง “เลี้ยงสื่อ” ช่วยปั้นข่าว

หากศึกษาเรื่องราวพื้นฐานแต่ละคนล้วนมีที่มาที่ไป

คนไหนของจริง คนไหนของปลอม

นักสืบมือปราบตัวจริงในโลกปทุมวันยามนี้ร่อยหรอลงทุกที ที่มีอยู่ก็เก็บตัว กลัวความผิดพลาด เนื่องจากผู้เป็นนายไม่ช่วยคัดท้ายแล้วยังกระทืบซ้ำ

มันคือ เคราะห์กรรมของคนทำงาน

ไล่ลำดับจากหัวเมื่อหมดยุค “ดรีมทีม” นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 36 แล้วจะเห็นเงา “ผู้นำทัพ” เหล่านักสืบมือปราบลงไขคดีสำคัญสักกี่รายที่จะสะกดความท้าทายบรรดาอาชญากรทุกรูปแบบ เหตุเพราะไม่ค่อยมี “ครูต้นแบบ” คอยเป็นแม่แบบให้เรียนรู้

โครงการ “ครูแม่ไก่” ยังไม่ยิ่งใหญ่เท่าหลักสูตรโรงเรียนนักสืบนครบาลยุค พล.ต.ท.โสภณ วาราชนนท์ เป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาลที่มอบหมาย พ.ต.ท.ปรีชา ธิมามนตรี รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนนครบาลพระนครเหนือ ในขณะนั้นสร้าง ทายาทนักสืบรุ่นใหม่

เป็น 30 นักสืบดาวรุ่งเรียนรู้ครบเครื่องดีสุดที่องค์กรตำรวจสร้างขึ้นมา

ทว่าเวลาผ่านไป “วงจรอุบาทว์”จากการแต่งตั้งโยกย้ายกลับทำลายพวกเขาเหล่านั้นหลายไปจากหน้างานที่ถนัดทีละคน

เหลือแต่ผลผลิตผิดฝาที่กำลังพาหน่วยนักสืบล่มสลาย !!!

 

 

RELATED ARTICLES