โครงการนักสืบในฝัน

นักสืบรุ่นใหม่หายาก แต่ไม่ลำบากถ้าอยากที่จะหา

วันหนึ่ง พ.ต.ท.อภิชาติ หัตถสิน อดีตสารวัตรกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ที่ลาออกไปทำงานสำนักงานตำรวจสากล โทรศัพท์หา ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี รองผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ

ในฐานะเพื่อนนักเรียนนายร้อยตำรวจร่วมรุ่น 50

เสนอโครงการในฝันที่ยังคาใจแล้วไม่ได้ทำสมัยยังสวมเครื่องแบบสีกากี คือ การสืบสวนคดีเกี่ยวกับเด็กให้โลกยอมรับ

หลังจากนั้นไม่นาน ร.ต.อ.เขมชาติ ประกาษหงษ์มณี ได้รับหนังสือจาก สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (Thailand Institute of Justice หรือ TIJ) ตั้งให้เขาเป็นหัวหน้า โครงการลงมือทำการต่อต้านการละเมิดเด็กในธุรกิจการท่องเที่ยว (Action-Oriented Study:Combatting Child Sex Tourism)

ถ่ายทอดความรู้เรื่องการสืบสวนคดีละเมิดทางเพศเด็ก และสื่อลามกอนาจารเด็กที่เวทีนานาชาติให้ความสนใจในลำดับต้น ๆ

เจ้าหน้าที่ดีเอสไอหนุ่มถูกวางเป็น “คีย์แมนหลัก” ในการขับเคลื่อน เชิญ คุณสุดารัตน์ เสรีวัฒน์ ผู้อำนวยการมูลนิธิพัฒนาการคุ้มครองเด็ก (Fight Against Child Exploitation หรือ FACE) มาช่วยดำเนินการ

เปิดการอบรมนำวิชาความรู้และประสบการณ์มาจัดการเรียนการสอนเพื่อให้นักสืบได้ประโยชน์อย่างแท้จริง

อีกทั้งจะทำอย่างไรให้นำไปประยุกต์ใช้กับการสืบสวนอาชญากรรมชนิดอื่นได้ทั้งหมด

แบ่งการอบรมเป็น 3 ระดับ คือ ระดับต้น ระดับกลาง ระดับสูง เรียนระดับละ 1 สัปดาห์แล้วกลับไปทำงาน แล้วมาเรียนอีกสัปดาห์สลับกลับไปทำงาน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับต้นสังกัด  งได้

กำหนดผู้เข้าฝึกอบรมอายุต้องไม่เกิน 45 ปี มีทั้งหมด 45 คน แบ่ง 3 รุ่น รุ่นละไม่เกิน 15 คน แต่ต้องผ่านการประเมินด้วย

ผู้เข้ารับการอบรมจะไม่รู้ตารางสอน เพื่อฝึกการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่จะไม่มีการแจ้งให้ทราบมาก่อน ไม่มีกำหนดด้วยว่า ต้องเรียนกลางวัน หรือกลางคืน แถมมีการบ้านให้ทำกันเป็นทีม

สืบสวนเสร็จแล้วต้องทำรายงานส่งตอนเช้าของทุกวัน

นำเคสจริง ๆ มาให้ฝึกปฏิบัติ และตรวจค้นจับกุมจริง เน้นแต่ละหน่วยทำงานร่วมกันเป็นทีม นำกฎหมายที่มีในแต่ละหน่วยมาใช้บังคับร่วมกันอย่างเต็มที่  ประกอบด้วย กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ส่วนใหญ่ระดับสารวัตร เพราะมีกำลังในมือ สามารถนำความรู้ที่เรียนไปถ่ายทอด คุมกำลังปฏิบัติได้ต่อ กรมการปกครอง มีอำนาจตามกฎหมาย แต่ไม่เคยปฏิบัติจะได้ทำงานกับตำรวจโดยไม่ต้องไปทะเลาะกันเหมือนที่ผ่านมา สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เน้นการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ เพราะพยานหลักฐานส่วนมากในคดีลักษณะนี้ ต้องนำไปใช้ในต่างประเทศด้วย

เมื่อเป็นรูปเป็นร่างแล้วจึงประสานขอให้หัวหน้าหน่วยคัด “หัวกะทิ” ของหน่วยมาอบรม เน้นย้ำคนดีที่มีความตั้งใจ ไม่ใช่ส่งคนต้องการพักผ่อนเข้ามาอบรม

ได้วิทยากรคุณภาพจากประเทศไทย และต่างประเทศ เช่น องค์การสหประชาชาติ (UNODC)  อังกฤษ ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา แคนาดา สวีเดน ฝรั่งเศส อินเดีย สิงคโปร์ ตำรวจสากล นำเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาถ่ายทอด และเน้นการสืบสวนแบบคู่ขนานระหว่างประเทศ

เปิดโลกของการสืบสวนให้เห็นการทำงานตามมาตรฐานสากล

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติน้อยคนจะคิดได้แบบนี้

RELATED ARTICLES