ตำรวจไซเบอร์ทลายแหล่งโจรกรรมรถส่งขายข้ามทวีป

 

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธนา ชูวงษ์ รักษาราชการรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ต.อ.สุวัฒน์ เกิดแก้ว รองผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี สนธิกำลังนายวาริส วิสารทานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคการตรวจสอบสินค้า สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เจ้าหน้าที่กรมขนส่งทางบก สมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย เปิดปฎิบัติการปิดล้อมตรวจค้น 7 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ชลบุรี ปทุมธานี ตามยุทธการปิดหลุมดำโจรกรรมรถข้ามทวีป

จุดที่น่าสนใจคือ การเข้าตรวจสอบศูนย์เอ็กซเรย์ท่าเรือแหลมฉบัง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ 2 ตู้ สำแดงในเอกสารว่าเป็นอุปกรณ์ชื้นส่วนรถยนต์ทั่วไป เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเชิญตัวแทนบริษัทชิปปิ้งและเจ้าหน้าที่ศุลกากรขอเปิดตู้ตามแนวทางสืบสวนมีการลำเลียงชิ้นส่วนรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมนำมาชำแหละและซุกซ่อนในตู้คอนเทรนเนอร์เพื่อเตรียมส่งออกไปต่างประเทศ พบภายในตู้คอนเทรนเนอร์ ซุกซ่อนเครื่องยนต์รถกระบะ 12 ตัว หัวเก๋งรถยนต์กระบะ ซากรถยนต์ ชิ้นส่วนรถกระบะ ประตูรถยนต์อะไหล่อื่นๆจำนวนมาก ทั้งหมดอยู่ในสภาพใหม่เอี่ยมได้ยึดไว้ตรวจสอบ

นอกจากนี้ในจุดอื่นๆได้เข้าตรวจสอบโกดังชำแหละรถย่านอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ตรวจยึดรถยนต์ ซากรถยนต์ รวม 16 คัน เครื่องยนต์ จำนวน 2 เครื่อง  ส่วนโกดังซอยรามอินทรา 47 พบหัวเก๋งรถยนต์ 22 ชิ้น รถกระบะ จำนวน 5 คัน  โกดังย่านลาดกระบังพบเครื่องยนต์ จำนวน 98 เครื่อง หัวเก๋ง 8 ชิ้น รถกระบะ 3 คัน

เบื้องหลังปฏิบัติการสืบเนื่องจากกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้รับการประสานจากสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทยว่าในแต่ละปีมีรถหายในระบบเช่าซื้อ 30,000 คัน มูลค่าความเสียหายกว่า 20,000 ล้านบาท ประกอบกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำที่ผิดกฎหมายบนสื่อสังคมออนไลน์ ใช้ระบบวิเคราะห์สื่อสังคมออนไลน์และเว็บไซต์ใต้ดินในการสืบสวนสอบสวน จนพบบัญชีเฟซบุ๊กต้องสงสัยโพสต์เสนอขายซากและอุปกรณ์ส่วนควบรถยนต์ ซากรถและอุปกรณ์มีลักษณะใหม่ และไม่มีร่องรอยการเกิดอุบัติเหตุหนัก เชื่อว่าได้มาโดยผิดกฎหมาย ก่อนสืบสวนเพิ่มเติมพบสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการนำไปสู่การขอหมายศาลเข้าตรวจค้นใรวม 7 จุด

สอดรับกับการสืบสวนของ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ พบมีการกระทำในลักษณะขบวนการ ของกลางส่วนใหญ่ที่ตรวจยึดเป็นซากและอุปกรณ์ส่วนควบรถยนต์กว่า 160 คัน มูลค่ากว่า 172 ล้านบาท เชื่อว่า ของกลางทั้งหมดผ่านการถูกโจรกรรม ก่อนนำมาชำแหละใส่ตู้คอนเทรนเนอร์เตรียมส่งออกนอกประเทศ ส่วนมากเป็นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ และอีซูซุ ดีแม็กซ์ ปลายทางเป็นประเทศในทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง และทวีปแอฟฟริกา ขบวนการนี้ยังใช้วิธีการหลบเลี่ยงในการสำแดงเท็จ ระบุเป็นชิ้นส่วนอะไหล่ แต่ในความเป็นจริงเป็นชิ้นส่วนรถยนต์ที่เป็นคันเดียวกัน ยัดใส่ตู้มีการระบุหมายเลขต่างๆ เมื่อไปถึงปลายทางจะประกอบเป็นคันได้ทันที ตำรวจพร้อมขยายผลไปยังตัวการที่สั่งการต่อไป

 

RELATED ARTICLES