เมื่อวันที่ 13 พ.ย.66 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม, สั่งการ พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม, สนธิเจ้าหน้าที่ กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปรามกก, ร่วมกับ ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักของ นายสุพัฒน์ ชาตรี อายุ 44 ปี อดีต สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง ในพื้นที่ ตำบลโคกม่วง อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง
เนื่องจากเมื่อวันที่ 8 พ.ย.66 ที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่าติดตามตัวนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด ได้ตรวจยึดอาวุธปืนสงคราม M16 ตอกเลขทะเบียนปลอมเนื่องจากปืนชนิดนี้ไม่สามารถขออนุญาตครอบครองได้ ซึ่งจากการตรวจสอบเลขที่ปรากฏบนอาวุธปืนพบว่าตรงกับกับเลขทะเบียนอาวุธปืนที่ นายสุพัฒ เคยขอใบอนุญาตไว้
จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลเข้าค้นบ้านพักของอดีต สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุงจากการตรวจค้นภายในบ้าน พบอาวุธปืนยาวลูกซอง 1 กระบอก และปืนยาวไรเฟิล ขนาด 5.56 NATO ยี่ห้อ BARRETT อีก 1 กระบอก ซึ่งอาวุธปืนยาวไรเฟิล ที่ตรวจพบ มีเลขทะเบียนตรงกับอาวุธปืน M16 ที่ตำรวจตรวจพบขณะไล่ล่าเสี่ยเเป้ง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดอาวุธปืนส่งไปตรวจยังพิสูจน์หลักฐาน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค9 พร้อมเชิญตัวนายสุพัฒ ไปยัง สถานีตำรวจเขาชัยสน เพื่อสืบสวนขยายผลต่อไป
จากแนวทางการสืบสวนยังทราบอีกว่า นายสุพัฒ เป็นผู้ใหญ่ที่เสี่ยเเป้งให้ความเคารพนับถือ โดยก่อนที่เสี่ยแป้งจะก่อเหตุหลบหนีออกจากโรงพยาบาล นายสุพัฒ อ้างว่าตนได้มีการเดินทางไปเยี่ยมเสี่ยแป้ง ที่โรงพยาบาลฯ จริง แต่ตนเดินทางไปเพื่อแจ้งข่าวการเสียชีวิตของบิดาเสี่ยแป้งเพียงเท่านั้น สำหรับประวัติของนายสุพัฒ เดิมเป็นอดีต สจ.ในพื้นที่หลายสมัย ก่อนจะลาออกมาลงสมัครนายกเทศมนตรี แต่ไม่ได้รับเลือก
