เมื่อวันที่ 25 พ.ย.66 พ.ต.อ.ธราดล เหมพัฒน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรทับคล้อ พ.ต.ท.นิธีศ ก้องวีระกุล รองผู้กำกับการปราบปรามสถานีตำรวจภูธรทับคล้อ พ.ต.ท.ชาตรี ชราชิตรองผู้กำกับการสืบสวนสถานีตำรวจภูธรทับคล้อ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อิสระ น้อยพร สารวัตรปราบปรามสถานีตำรวจภูธรทับคล้อ พ.ต.ต.พิพัฒน์ บางพัฒนากร สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรทับคล้อ ร.ต.อ. ชุติเดช ณ พิกุล รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรทับคล้อ นำกำลังจับกุม นายชูวงค์ เกตุทิพย์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 ม.4 ต.ดงกลาง อ.เมืองพิจิตร จว.พิจิตร พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9มม. หมายเลขทะเบียน ลบ.01/4300 จำนวน 1 กระบอก ปลอกกระสุนปืนที่ใช้ยิงแล้ว ขนาด 9มม. จำนวน 1 ปลอก แม็กซีนบรรจุกระสุนปืน จำนวน 1 แม็ก รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซู รุ่นดีแม็ก สีฟ้า ทะเบียน บต 6428 พิจิตร จำนวน 1 คัน โดยกล่าวหาว่า “ฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนของผู้อื่นไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาตพกพาติดตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนสมควรแก่พฤติการณ์”
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่24พ.ย.66 เวลาประมาณ 21.00น. สถานีตำรวจภูธรทับคล้อได้รับรายงานเหตุ อุกฉกรรจ์ คดีฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธปืนมีผู้เสียชีวิต 2 สถานที่เกิดเหตุ ร้านค้าไม่มีเลขที่ หมู่ 9 ตำบลเขาทราย อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร จึงรุดไปตรวจสอบ ภายในที่กิดเหตุ พบศพ นางพรรณอร เกตุทิพย์ อายุ 37 ปี นางธัญญ์ธิชา ชังคะนาค อายุ 49 ปีนอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บริเวณใต้โต๊ะร้านค้าดังกล่าว หลังได้รับรายงานเหตุไม่นาน พ.ต.อ.ธราดล เหมพัฒน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรทับคล้อ เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นทราบจากบุตรชายของ นางพรรณอร ผู้ตายว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ นางสาวพรรณอร และ นางธัญญ์ธิชา ซึงผู้ตายทั้ง 2 คนเป็นพี่น้องกันนั่งคุยอยู่ที่โต๊ะ หน้าร้านที่เกิดเหตุ มีนายชูวงศ์ เกตุทิพย์ สามีของนางพรรณอร ผู้ตายได้ขับรถยนต์มาถึงแล้วเกิดปากเสียงกัน นายชูวงค์ จึงได้ใช้อาวุธปืนยิง ทั้งสองถึงแก่ความตาย จากนั้นได้ขับรถยนต์หลบหนีไป ต่อมา พ.ต.อ.ธราดล เหมพัฒน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรทับคล้อ จึงได้ขอหมายเลขโทรศัพท์ นายชูวงค์ จากลูกชายแล้วโทรเกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัว กระทั่งผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้ได้ดังกล่าว
สอบสวน นายชูวงค์ ให้การว่า ตนทำธุรกิจรถเกี่ยวข้าวรับจ้างเกี่ยวข้าว เมื่อเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว จึงตนจึงไปเก็บเงินจากชาวนาที่เกี่ยวข้าวให้ประมาณ 70,000 บาท แต่กลับได้รับแจ้งว่า นางพรรณอร ภรรยา และนางธัญญ์ธิชาพี่สาว ได้ไปเก็บเงินล่วงหน้าแล้ว จึงนัดมาเจรจาเคลียร์กันที่หน้าบ้าน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ และมีการต่อว่ากัน ตนจึงได้ไปหยิบปืนในรถแล้วยิงโดยมีลักษณะเดินยิงจากหน้าบ้านไปถึงจุดที่พบศพ อย่าไรก็ตามจึงควบคุมตัวนายชูวงค์ ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรทับคล้อตำเนินคดีต่อไป
