ตำรวจกองปราบ ตามรวบยกแก๊งหลอกเช่ารถเชิดหนี หลังพบโพสต์ประกาศขายผ่านเพจเฟซบุ๊กรถหลุดจำนำ อีกคดี รวบหนุ่มเลือดร้อน รัวยิงคู่อริหมดโม่ 

เมื่อวันที่ 25 พ.ย.66 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผู้บังคับการปราบปราม สั่งการ พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผู้กำกับการ1กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.วิวัฒน์  จิตโสภากุล ผู้กำกับการ3กองบังคับการปราบปราม นำกำลังเปิดปฏิบัติการทลายแก๊งค้ารถหลุดจำนำ

จับกุมผู้ต้องหาขบวนการดังกล่าวได้จำนวน 7 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันยักยอก หรือรับของโจรเพื่อค้ากำไร” จำนวน 6 ราย และ ผู้กระทำความผิดฐาน “ปลอม หรือใช้เอกสารราชการปลอม ,ครอบครองอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน , พกพาอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไปในที่สาธารณะ และ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่” จำนวน 1 ราย

เนื่องจากเมื่อเดือนสิงหาคม 66 ที่ผ่านมาได้ผู้เสียหายรายหนึ่ง ถูกแก๊งมิจฉาชีพทำทีมาติดต่อขอเช่ารถ จำนวน 1 คัน แต่เมื่อได้รับแล้วกลับออกลายโจรเชิดรถคันดังกล่าวหลบหนีไป ก่อนที่ต่อมาผู้เสียหายจะไปพบรถของตัวเองถูกโพสต์ประกาศขายบนเพจเฟซบุ๊กชื่อ “นางฟ้า รถหลุดจำนำ” จึงนำเรื่องเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจกองปราบให้ช่วยติดตามรถกลับคืน

หลังรับเรื่องเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส จนทราบว่า มีการทำกันเป็นขบวนการใหญ่ แบ่งหน้าที่ต่างกันไป เช่น นายทุนที่รับรถหลุดจำนำมาเพื่อปล่อยค้ากำไร, นายหน้าหาลูกค้า, คนทำเพจประกาศขายรถทางออนไลน์, คนหารถป้อนเข้าสู่ขบวนการ และช่างรับถอด GPS นอกจากนี้ยังพบว่า รถของผู้เสียหาย หรือ รถที่ถูกขโมยมานั้น จะมีการส่งต่อลูกค้ากินหัวคิวกันหลายทอด โดยแต่ละทอดก็จะมีนายหน้าหักค่าคอมมิชชั่น คล้ายกับลักษณะเครือข่ายใหญ่เชื่อมโยงกันด้วยผลประโยชน์ทางการเงิน

เจ้าหน้าที่จึงวางแผนส่งสายลับติดต่อล่อซื้อรถของผู้เสียหายจากทางเพจดังกล่าว สามารถจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายดังกล่าวกลุ่มแรกจำนวน 3 คน จากนั้นจึงขยายผลตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลืออีก 4 คน ในจำนวนนี้มีนายทุนรับซื้อขายรถรายใหญ่รวมอยู่ด้วย สอบสวนผู้ต้องหาส่วนใหญ่ ให้การยอมรับสารภาพ มีเพียงบางส่วนที่ยังคงปฏิเสธ เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง สถานีตำรวจนภูธรปากเกร็ดดำเนินคดีตต่อไป

ส่วนอีกคดี พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผู้กำกับการ5กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ต.ธีระพงษ์ คงเขียว สารวัตรกองกำกับการ5กองบังคับการปราบปราม นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่6 กองกำกับการ5กองบังคับการปราบปราม จับกุม นายไพฑูรย์ หรือนายนันทภพ เพชรด้วง อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 202/2558 ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2558 คดีหมายเลขดำที่ 2089/2552 คดีหมายเลขแดงที่ 3244/2554 ข้อหา “ความผิดต่อชีวิต พยายาม และพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ” ได้ที่หน้าบ้านแห่งหนึ่ง ตำบลท่ายาง อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช

พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2552 นายไพฑูรย์ ผู้ต้องหา ได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นชนิดลูกโม่ ยิงผู้เสียหาย จำนวน 6 นัด จนกระสุนหมดโม่ เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังน้องชายนายไพฑูรย์ ทะเลาะกับกลุ่มของผู้เสียหายที่งานแสดงดนตรีที่ ตำบลท่ายาง อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดี ต่อมานายไพฑูรย์ ได้ประกันตัวออกมาเพื่อต่อสู้คดีซึ่งขณะนั้นศาลอุธรธ์พิพากษาลงโทษจำคุก 11 ปี 6 เดือน จึงหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น นายนันทภพ กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทราบว่า นายไพฑูรย์ หรือ นายนันทภพ ผู้ต้องหารายนี้จะกลับมาในพื้นที่ ตำบลท่ายาง อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ช่วงเทศกาลวันลอยกระทง จึงได้นำกำลังติดตามจับกุมได้ดังกล่าว สอบสวน นายไพฑูรย์ หรือ นายนันทภพ เพชรด้วง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวส่งศาลจังหวัดทุ่งสง เพื่อดำเนินคดีต่อไป

RELATED ARTICLES